เตือน! หาก “เบาหวานขึ้นตา” รักษาช้า เสี่ยงตาบอดถาวร
เบาหวานขึ้นตา เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้ในที่สุด
ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก สำหรับในประชากรไทยพบผู้ป่วยเบาหวานสูงถึง 3.2 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.4 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ และจำนวนผู้ป่วยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่โรคเบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ซึ่งสาเหตุมาจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่ออินซูลินที่ร่างกายผลิตอย่างใดอย่างหนึ่ง
คุณเสี่ยงเป็น “โรคตา” หรือไม่? เช็ก 8 โรคตาต้องระวัง
“โรคตาในผู้สูงอายุ” ความเสื่อมที่คุณต้องเตรียมรับมือ
“วุ้นตาเสื่อม” ภัยเงียบสังคมก้มหน้าวัยทำงาน
ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายรวมถึง “ดวงตา”
เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้ในที่สุด โดยเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดเลือดที่จอตา (Retina) ได้รับความเสียหาย
สั่งซื้อได้ที่ >> คลิกเบาหวานขึ้นตาแบ่งเป็น 2 ระยะตามความรุนแรงของโรค
1.เบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรกหรือระยะที่ยังไม่มีหลอดเลือดเกิดใหม่ (Nonproliferative Diabetic Retinopathy: NPDR) เป็นระยะที่ผนังหลอดเลือดที่จอตาไม่แข็งแรง ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง อาจทำให้เลือดหรือของเหลวรั่วออกมาในจอตา ทำให้เกิดจอตาบวม ในระยะเริ่มแรกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หากเกิดหลอดเลือดรั่วบริเวณจุดภาพชัด (Macula) จะทำให้เกิดจุดภาพชัดบวม (Macular Edema) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการมองเห็น หากมีการอุดตันของหลอดเลือด อาจทำให้เกิดจอตาหรือจุดภาพชัดขาดเลือด (Macular Ischemia) ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้
2.เบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า หรือระยะที่มีหลอดเลือดเกิดใหม่ (Proliferative Diabetic Retinopathy: PDR) เป็นระยะที่หลอดเลือดเกิดการอุดตันจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ มีการขาดเลือดที่จอตามากจนเกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งหลอดเลือดที่สร้างขึ้นใหม่เหล่านี้อาจไม่ได้พัฒนาอย่างเหมาะสม มีผนังไม่แข็งแรง เปราะแตกฉีกขาดได้ง่าย ทำให้มีเลือดออกในวุ้นตา เกิดพังผืดดึงรั้งจอตา ซึ่งเป็นสาเหตุให้จอตาลอก (Retinal Detachment) ตามมาได้ หรือถ้าหากเส้นเลือดใหม่ที่เกิดขึ้นไปรบกวนการระบายน้ำออกจากลูกตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้น เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทตาและเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต้อหิน (Neovascular Glaucoma) ได้
ขณะที่ อาการเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกจะไม่มีอาการหรือความผิดปกติในการมองเห็น ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ตัวและละเลยการตรวจตา แต่มารู้ตัวอีกทีเมื่อเบาหวานเริ่มขึ้นตาแล้ว ซึ่งอาจพบอาการต่าง ๆ เช่น
มองเห็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา
มองเห็นภาพบิดเบี้ยว
ตามัว การมองเห็นแย่ลง สายตาไม่คงที่
แยกแยะสีได้ยากขึ้น
เห็นภาพมืดเป็นบางจุด
สูญเสียการมองเห็น
สั่งซื้อได้ที่ >> คลิกการรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นระยะที่ยังไม่มีหลอดเลือดเกิดใหม่ หรือยังไม่มีการมองเห็นผิดปกติ อาจยังไม่จำเป็นต้องรักษาในทันที การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับน้ำตาลสะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรักษา รวมทั้งการควบคุมโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เพื่อช่วยชะลอความรุนแรงของโรคได้ การตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดมากขึ้นจะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้เร็วและได้รับการรักษาได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะของโรคที่รุนแรงและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้
การรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า ซึ่งเป็นระยะที่มีหลอดเลือดเกิดใหม่ ในระยะนี้ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการรักษา ซึ่งแนวทางการรักษา ได้แก่
-การรักษาด้วยเลเซอร์ เพื่อควบคุมและรักษาการรั่วซึมของหลอดเลือด จอตาขาดเลือด และหลอดเลือดที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยเลเซอร์มักจะไม่ทำให้การมองเห็นดีขึ้น เพียงแค่ช่วยชะลอหรือป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลงเท่านั้น
-การฉีดยา Anti – Vascular Endothelial Growth Factor (Anti – VEGF) เข้าวุ้นตา เพื่อยับยั้งการเกิดของหลอดเลือดงอกใหม่ ลดการบวมของจุดภาพชัด ซึ่งจะช่วยให้การมองเห็นไม่แย่ลง หรืออาจทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้
-ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroids) อาจเป็นยาทางเลือกในผู้ป่วยบางราย
-การผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy) ในกรณีผู้ป่วยมีเลือดออกในวุ้นตามาก หรือมีพังผืดดึงรั้งจอตา ทำให้จอตาบวม จอตาหลุดลอกหรือฉีกขาด เพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็นถาวร
อย่างไรก็ตามผู้ที่ตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน ควรมีการตรวจตาร่วมด้วย หากยังไม่พบเบาหวานขึ้นตา ควรตรวจซ้ำปีละ 1 ครั้ง หรือทางที่ดีคือผู้ป่วยเบาหวานควรดูแลเอาใจใส่สุขภาพอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ