ฉลองสงกรานต์ เลือกทานอาหารอย่างไรไม่ให้ "ท้องเสีย"
การกินดื่มฉลองในช่วงเทศกาล ท่ามกลางอากาศร้อนทำให้เสี่ยงเกินโรคท้องเสีย จึงควรเลือกทานอาหารให้ถูกวิธี
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้จัดงานเฉลิมฉลองขนาดใหญ่ไม่ได้ แต่ก็ยังมีการกินดื่มภายในครอบครัว แต่การกินดื่มอาหารอย่างหลากหลายที่เราซื้อมาจากร้านต้องคำนึงถึงความสะอาด โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย ซึ่งหลักการง่ายๆ ก็คือ เลือกกินอาหารที่ปรุงสุก และยึดหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ" เพื่อลดเสี่ยงการเกิดโรคท้องเสีย
อาหารแบบไหนที่ทำให้ท้องเสียได้ง่าย
จริงๆ แล้วอาหารทุกชนิด หากมีการปนเปื้อน หรือทิ้งไว้นานๆ หลังปรุงสุก ก็มักเป็นสาเหตุของการท้องเสียได้ง่าย
เชื้อหมด ฤทธิ์ไม่หมด เช็กสุขภาพหลังหายจากโควิด-19
หน้าร้อนแบบนี้ต้องระวัง โรคท้องร่วง - อาหารเป็นพิษใน "เด็ก"
โดยอาหารที่จะต้องระวังเป็นพิเศษก็มี เช่น
- อาหารทะเล
- หมูกระทะ ที่ปรุงไม่สุกพอ
- ส้มตำ ลาบ-ก้อยดิบ
- ยำต่างๆ เช่น กุ้งเต้น ยำหอยแครง
- ข้าวผัดโรยเนื้อปู
- อาหารหรือขนมที่มีกะทิ หรือราดด้วยกะทิสด
- ขนมจีน
- ข้าวมันไก่
- สลัดผัก
- น้ำแข็ง
ท้องเสียอย่าปล่อยนาน สังเกตอาการ แบบไหนต้องรีบรักษา
การปล่อยให้ท้องเสียติดต่อกันเป็นวันๆ โดยไม่ทำอะไรเลย อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ที่จำเป็นจนเกิดภาวะช็อกได้ นอกจากนี้การติดเชื้อบางอย่างจะทำให้มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย และถึงกับเป็นลมหมดสติได้ เพราะฉะนั้น เราควรเข้าใจถึงระดับความผิดปกติของการขับถ่าย ว่าแบบไหนคือถ่ายท้องปกติแบบท้องเสียเล็กน้อย และแบบไหนที่เข้าข่ายท้องเสียหนักหรือมีการติดเชื้อรุนแรง เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแล้ว
สัญญาณ “ท้องเสียผิดปกติ” อาการจะเป็นอย่างไร
- อุจจาระเหลว หรือถ่ายออกเป็นน้ำ
- ถ่ายท้องต่อเนื่องมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน
- มีอาการปวดท้องเกร็งที่รุนแรงกว่าปกติ
- รู้สึกอ่อนเพลีย และเหมือนมีไข้อ่อนๆ
- โดยปกติ อาการท้องเสียทั่วไปมักหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่หากใครก็ตามที่ท้องเสียต่อเนื่องนานเกินกว่า 3 วัน ก็ควรไปพบแพทย์ เพราะการท้องเสียนั้นอาจมีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้อง มิเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายได้
วิธีป้องกันและรักษาอาการท้องเสียเบื้องต้น
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
- ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังทำกิจกรรมต่างๆ ทุกครั้ง
- เลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดองที่ไม่มั่นใจในคุณภาพและความสะอาด เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่
- หากท้องเสีย ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
- รับประทานยาแก้ท้องเสีย (Diosmectitie) ซึ่งจะช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และบรรเทาอาการได้
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ของหมักดอง และอาหารที่มีไขมันสูง
- หากผ่านไป 3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยังรู้สึกอ่อนเพลีย ริมฝีปากแห้ง เวียนศีรษะ มีเลือดออกปนในอุจจาระ หรือมีเลือดปนในอาเจียน ควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรรอให้อาการท้องเสียนั้นหายไปเอง เพราะอาจมีแนวโน้มของโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมอยู่ เช่น โรคสำไส้อักเสบ หรืออาการท้องเสียนั้นอาจเกิดจากอาการตอบสนองต่อยาบางประเภท หรือมีการติดเชื้อไวรัสโรต้า เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท