มะเร็งที่เสี่ยงแพร่กระจายก่อมะเร็งกระดูก อาการแบบไหนต้องระวัง?
มะเร็งกระดูก นับเป็นมะเร็งที่พบได้น้อยแต่รุนแรงมาก ซึ่งไม่ได้เกิดกับแค่เซลล์มะเร็งกระดูกเอง แต่สามารถลามมาจากอวัยวะอื่นได้ด้วย เผยชนิดมะเร็งและอาการที่ควรระวัง
โรคมะเร็งกระดูก แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ มะเร็งกระดูกที่มีต้นกำเนิดจากเซลล์กระดูกเอง (Primary Bone Cancer)มะเร็งชนิดนี้ มีสาเหตุเกิดจากเซลล์ในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงแบ่งตัวมากผิดปกติจนกลายเป็นเนื้องอกมะเร็ง พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และอีกชนิดหนึ่งที่พบเจอในสัดส่วนเยอะกว่า คือ มะเร็งจากอวัยวะอื่นๆ แล้วลามมาที่กระดูก (Secondary Bone Cancer / Bone Metastasis)มักพบในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเป็นมะเร็งอยู่ก่อนแล้วแล้วลามมาที่กระดูก
หากผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งแล้วมีอาการปวดกระดูก ภายหลังจากรักษาเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น ควรพิจารณาพบแพทย์เฉพาะทางมะเร็งกระดูกเพื่อตรวจเพิ่มเติม
มะเร็งที่แพร่กระจายทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งกระดูก
- โรคมะเร็งเต้านม
- โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์
- โรคมะเร็งปอด
- โรคมะเร็งไต
- โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ควรสังเกตระวังมะเร็งกระดูก
- อาการปวดกระดูกมากผิดปกติ หรือปวดแบบทรมานทนไม่ไหว โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- ภาวะกระดูกหัก หรือกระดูกร้าวแบบที่ไม่ควรจะเป็น
ผู้ป่วยมะเร็งในกลุ่มเสี่ยงข้างต้น หากพบมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยโดยด่วน จากข้อมูลพบว่า หากเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อกระดูกเอง มักมีอาการรุนแรง และอาจเสียชีวิตได้ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี แต่สำหรับมะเร็งกระดูกชนิดทุติยภูมิ คือเชื้อมะเร็งที่แพร่กระจายมาที่กระดูกจากการเป็นโรคมะเร็งชนิดอื่น หากทำการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก (เพราะมักจะตรวจพบหลังจากเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นแล้ว) ผู้ป่วยอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน แต่หากอาการหนักมาก หรือเป็นมะเร็งปอดที่หนักมากแล้วเชื้อแพร่กระจายไปที่กระดูก ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลา 6 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อมะเร็ง
การรักษามะเร็งกระดูกโดยเก็บรักษาอวัยวะไว้ เพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายที่เป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายอาจไม่แสดงอาการใดๆ แต่พบโดยบังเอิญจากการตรวจภาพถ่ายรังสีหรือการตรวจเลือด ในกรณีที่มีอาการจากมะเร็งระยะแพร่กระจาย อาการมักขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งที่มีการแพร่กระจาย เช่น
- มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังกระดูกมักทำให้มีอาการปวดและกระดูกหัก
- มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังสมองอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ชัก หรือมึนงง
- มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังปอดอาจทำให้มีอาการหายใจลำบาก
- มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังตับ อาจทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวมได้ เป็นต้น
การรักษามะเร็งระยะแพร่กระจายสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การฉายแสง การรักษาทางชีวภาพ การรักษาด้วยฮอร์โมน การผ่าตัด และการผ่าตัดโดยใช้ความเย็น หรือใช้หลายวิธีร่วมกันขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ขนาด และตำแหน่งที่มีการแพร่กระจาย นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอายุ สภาพร่างกาย การรักษาที่เคยได้รับ และความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละรายด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็ง และเพื่อบรรเทาอาการอันเนื่องมาจากมะเร็ง โดยให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 2,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 6
เทียบคุณค่าโภชนาการ นมจากสัตว์ และ นมจากพืช แบบไหนแคลเซียมเยอะกว่า?
กลุ่มอาหารสำคัญช่วยป้องกันกระดูกพรุน เสริมความแข็งแรงของมวลกระดูก