เทคนิคใช้ ยาคุมกำเนิด ให้ป้องกันสูงสุด ไขข้อสงสัยทำไมต้องกินเวลาเดิมทุกวัน
ยาคุมกำเนิดเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แต่ยังมีหลายคำถามที่ผู้คนสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน ประสิทธิภาพ และผลข้างเคียง
ยาคุมกำเนิดเป็นนวัตกรรมสำคัญทางการแพทย์ที่ช่วยผู้หญิงทั่วโลกในการวางแผนชีวิตและป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยยานี้มีฮอร์โมนที่ทำงานอย่างเป็นระบบในร่างกาย โดยทำหน้าที่ต่างๆ
- หยุดการตกไข่ ทำให้ไข่ไม่ถูกปล่อยจากรังไข่
- เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกให้เหนียวขึ้นจนสเปิร์มเคลื่อนที่ได้ยาก
- ลดความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิไม่สามารถฝังตัวได้
สุดยอดวิตามินช่วยชะลอวัย Anti-aging Vitamins พร้อมเสริมการดูแลสุขภาพ
6 วิธีดูแลสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เสริมการรักษา เข้าใจโรค สภาพจิตใจแข็งแรง

ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท?
การเลือกยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เพราะร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อฮอร์โมนแตกต่างกัน ประเภทของยาคุมจึงแบ่งออกเป็นดังนี้
- ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Pill) : เหมาะสำหรับผู้หญิงทั่วไป มีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ลดสิว และทำให้รอบเดือนเป็นปกติ
- ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Mini Pill) : มีเฉพาะโปรเจสเตอโรน เหมาะสำหรับคุณแม่ให้นมบุตรหรือผู้ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Pill) : ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ลืมคุมกำเนิดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเพราะอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว
- ยาคุมแบบฝังและแผ่นแปะ : เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกินยาคุมทุกวัน ให้ผลระยะยาวและสะดวกต่อการใช้งาน
วิธีกินยาคุมที่ถูกต้อง
ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน : กินวันละ 1 เม็ดในเวลาเดียวกันทุกวัน เริ่มกินตั้งแต่วันที่ 1 ของรอบเดือน หรือวันแรกหลังมีประจำเดือน
ยาคุมฉุกเฉิน : กินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดยอ่านคำแนะนำข้างกล่องอย่างละเอียด
เคล็ดลับที่หลายคนอาจมองข้าม
- กินเวลาเดิมทุกวัน : กินยาคุมกำเนิดในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อลดความเสี่ยงของการลืมและเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
- ควรเริ่ม วันแรกของรอบเดือน (มีผลคุมกำเนิดทันที) หรือหากเริ่มหลัง 5 วันแรกของรอบเดือน ควรใช้วิธีป้องกันเสริม เช่น ถุงยางอนามัย ใน 7 วันแรก
ลืมกินยาคุมต้องทำอย่างไร?
- หากลืมไม่เกิน 12 ชั่วโมง : กินเม็ดที่ลืมทันที และกินเม็ดถัดไปตามเวลาเดิม
- หากลืมเกิน 12 ชั่วโมง : ใช้วิธีป้องกันเสริมในช่วง 7 วันถัดไป
ผลข้างเคียงของยาคุมมีอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดในแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดหัว น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อารมณ์แปรปรวน หรือในบางรายอาจไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่หากมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที
ยาคุมกำเนิดทำให้อ้วนจริงหรือไม่?
ไม่ได้ทำให้อ้วนโดยตรง แต่บางคนอาจรู้สึกบวมน้ำหรือหิวบ่อยขึ้นในช่วงแรก
ยาคุมฉุกเฉินปลอดภัยหรือเปล่า?
ปลอดภัยหากใช้ไม่บ่อย แต่ไม่แนะนำให้ใช้แทนยาคุมปกติ เพราะอาจส่งผลต่อฮอร์โมนและรอบเดือน
ข้อดีและข้อเสียของยาคุมกำเนิด
ข้อดียาคุม
- ช่วยลดสิวและปรับสมดุลฮอร์โมน
- ลดอาการปวดประจำเดือนและรอบเดือนที่มาไม่ปกติ
- ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งรังไข่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (กรณีที่ไม่มีประวัติเสี่ยงในครอบครัว)
ข้อเสียที่ควรระวัง
- ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน
- เพิ่มความเสี่ยงของโรคลิ่มเลือดอุดตันในบางคน
- ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs)
แพทย์เผยสีและลักษณะของอุจจาระช่วยบอกสุขภาพ หมั่นเช็กก่อนกดเสมอ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด
ไม่สามารถยาคุมป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แม้มีประสิทธิภาพสูง แต่หากลืมกินหรือใช้งานผิดวิธี ความเสี่ยงยังมีอยู่ และ ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ โดยเฉพาะหากคุณมีประวัติโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคลิ่มเลือด
ยาคุมกำเนิดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ หากใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเข้าใจถึงประเภท วิธีการใช้ และผลข้างเคียงจะช่วยให้คุณใช้ยาคุมได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจที่สุด
ทั้งนี้ คำอธิบายต่างๆ ในบทความนี้อาจเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับยาคุมกำเนิดเท่านั้น เพราะผลข้างเคียง หรือผลของการกินยาคุมกำเนิดในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปในท้ายที่สุด หากต้องการคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดเหมาะ อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อข้อมูลที่เหมาะสมกับตัวคุณ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
ลุยจัดระเบียบร้านขายยาทั่วกรุงฯ รวบ 12 เภสัชเถื่อน ยึดของกลาง 26 รายการ
5 มะเร็งที่พบบ่อยในวัยทำงาน ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องบาลานซ์ชีวิตลดเสี่ยงโรค