ไข้หวัดใหญ่ ภาวะแทรกซ้อนอันตรายถึงชีวิต ฉีดวัคซีนก็เป็นซ้ำได้แต่รุนแรงน้อยกว่า
ไข้หวัดใหญ่ ภัยเงียบที่หลายคนรู้จักแต่ละเลย แต่รู้หรือไม่? สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายที่คร่าชีวิตกระทันหันได้ อย่าง กรณีของ ต้าเอส หรือ สวี ซีหยวน ดาราดังไต้หวัน แพทย์เผยอาการและสัญญาณอันตราย ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ข้อมูลสถิติปี 2567 พบไข้หวัดใหญ่ มีผู้ป่วยสะสม 668,027 ราย สูงกว่าปี 2566 ประมาณ 1.39 เท่า กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มเด็กเล็ก และวัยเรียน ผู้เสียชีวิต 51 ราย เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป การระบาดส่วนใหญ่พบในโรงเรียน เรือนจำ วัด ศูนย์ฝึกอบรมฯ และค่ายทหาร ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเรียนรู้ไม่ประมาทนับเป็นสิ่งที่ควรคำนึกถึง เพราะไข้หวัดใหญ่อันตรายถึงชีวิต
ย้อนข้อมูล“ไข้หวัดใหญ่ 2567” พบเสียชีวิต 51 ราย ส่วนมากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
อากาศหนาวฝุ่นPM2.5เยอะ! แยกอาการ ภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โควิด 19

ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส (Influenza Virus) ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและระบบอื่น ๆ แต่มีความแตกต่างจากไวรัสทางเดินหายใจทั่ว ๆ ไป เนื่องจากอาการของไข้หวัดใหญ่มักจะมีอาการที่รุนแรงและอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน และผู้ที่มีภูมิต้านทานร่างกายที่ไม่แข็งแรง
อาการของโรค
- ไข้ ปวดศีรษะและบริเวณเบ้าตา
- ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย
- ไอแห้ง ๆ เจ็บคอ มีน้ำมูก
นอกจากนี้สิ่งที่ควรรู้คือ ในเด็กอาการอาจแตกต่างกับในผู้ใหญ่ เช่น อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย โดยในประเทศไทยมีโอกาสในการเกิดโรคได้ตลอดทั้งปี แต่จะชุกชุมมากในฤดูฝน
สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่
- สายพันธุ์ A มีแบ่งย่อย 2 ตระกูล คือ H1N1 และ H3N2
- สายพันธุ์ B มีแบ่งย่อย 2 ตระกูล คือ Yamagata, Victoria
ถือเป็นโรคติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่าน การไอ จาม หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัส เมื่อได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัว 1 – 3 วัน
สามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาต้านไวรัส เพื่อลดระยะเวลาที่เป็นและลดความรุนแรง ได้แก่ กลุ่ม neuraminidase inhibitor เช่น ยา oseltamivir, zanamivir และ peramivir หรือกลุ่ม endonuclease inhibitor เช่น ยา baloxavir และกลุ่ม adamantanes เช่นยา amantadine และ rimantadine โดยให้ภายใน 48 ชั่วโมง
การติดต่อของโรค
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านเสมหะของผู้ป่วย โดยการไอหรือจามแล้วเข้าสู่ปากหรือจมูกของผู้ใกล้ชิด และมีเพียงส่วนน้อยที่เกิดจากการสัมผัสกับเสมหะของผู้ป่วยบนสิ่งของเครื่องใช้ด้วยมือแล้วนำมาสัมผัสกับปากหรือจมูก
ภาวะแทรกซ้อน
หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หลังเกิดอาการไข้หวัดใหญ่ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวอาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น
- ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- ภาวะขาดน้ำ
- โรคประจำตัวที่เป็นอยู่แย่ลง เช่น ภาวะหัวใจวายในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยและเสมหะของผู้ป่วย
- ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูก ตา ปากของตัวเองหากสัมผัสกับผู้ป่วย
- หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ควรอยู่ห่างจากผู้อื่น ปิดปากและจมูกเวลาไอหรือจาม
ใครควรรับวัคซีน
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ป่วยอายุระหว่าง 19 – 64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง
- ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งจากโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรฉีดก่อนช่วงที่จะมีการระบาดของโรค สำหรับประเทศไทยควรฉีดระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายนของทุกปี โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคหลังฉีดวัคซีนประมาณ 2 สัปดาห์ ที่สำคัญการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สามารถเปลี่ยนสายพันธุ์ได้บ่อย จึงแนะนำให้ฉีดทุกปี เพราะวัคซีนที่ผลิตในแต่ละปีจะเป็นวัคซีนเฉพาะสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในปีนั้น ๆ
ทำไมต้อง เลือกวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
มาทำความเข้าใจก่อนว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดกันอยู่นั้นมีอยู่ 2 ชนิด คือ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ซึ่งความแตกต่างระหว่าง 2 ชนิดนี้ก็คือ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์นั้นจะครอบคลุมสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่มากกว่า WHO จึงได้แนะนำวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เพราะไม่ใช่แค่ช่วยป้องกัน แต่ยังสามารถช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดโรคได้
ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี
นั่นก็เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปีซึ่งเป็นวงจรปกติของไวรัสที่ต้องปรับตัวเองเพื่อความอยู่รอด และไวรัสจะอยู่ตามบรรยากาศธรรมชาติทั่วไปได้ไม่นานก็ตาย จึงจำเป็นต้องหาวิธีติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราต้องป้องกันไวรัสนี้ได้โดยการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสที่เปลี่ยนแปลงไปทุกปีนั่นเอง
หลังฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันจะได้ผลตอนไหน?
ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัสที่มีระยะฟักตัวสั้นมาก โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1-4 วัน ก็ทำให้มีอาการติดเชื้อได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ขึ้นสูงก่อนที่ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกาย โดยปกติภูมิคุ้มกันจะขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 10-14 วัน
ได้รับวัคซีนก่อนโอกาสติดเชื้อก็น้อยกว่า
ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ 100% แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เมื่อติดเชื้อจะพบว่ามีอาการต่างๆ ของโรคน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่ออาการแทรกซ้อนต่างๆ การนอนโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตได้ง่ายกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ และ โรงพยาบาลพญาไท 3