รู้จัก "มะเร็ง" ให้มากขึ้น สาเหตุก่อโรค ชนิดใดพบได้บ่อยที่สุดใน "ชาย - หญิง"
โรคมะเร็งนับเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประชากรโลก การรู้จักโรคนี้ให้ดีมากขึ้นช่วยให้ป้องกันและรับมือได้อย่างถูกต้อง
โรคมะเร็ง (Cancer) พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบในอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ส่วนในวัยเด็กพบน้อยกว่าในผู้ใหญ่ประมาณ 10 เท่า ซึ่งสาเหตุการเกิดส่วนหนึ่งมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งมะเร็งที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้
โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย ได้แก่
- มะเร็งตับ
- มะเร็งปอด
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- มะเร็งช่องปาก
- มะเร็งกระเพาะอาหาร
- มะเร็งหลอดอาหาร
รู้จักโรค NCDs โรคที่คุณสร้างมันขึ้นมาเองทุกวันๆ
ปิดโอกาสโรคร้าย แนะ 5 ทำ 5 ไม่ ป้องกันมะเร็ง
โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง ได้แก่
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งตับ
- มะเร็งปอด
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งรังไข่
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งช่องปาก
- มะเร็งต่อมไทรอยด์
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
โรคมะเร็งที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- เนื้องอก / มะเร็งสมอง
- มะเร็งนิวโรบลาสโตมา/Neuroblas Toma (มะเร็งของประสาทซิมพาทีติก)
รู้จักโรคมะเร็ง
โรคมะเร็ง คือ โรคที่เกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติในร่างกายและเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ เซลล์เหล่านี้จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ / อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก และไขกระดูก
เนื้องอก
เนื้องอก คือ ก้อน ตุ่ม ที่โตขึ้นผิดปกติ เกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ เนื้องอกชนิดธรรมดาและเนื้องอกชนิดร้ายหรือมะเร็ง
โรคเนื้องอก
โรคเนื้องอก ได้แก่ มีก้อนเนื้อผิดปกติ แต่โตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ / อวัยวะข้างเคียง เพียงกดหรือเบียดเมื่อก้อนโตขึ้น ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสเลือดและทางกระแสน้ำเหลือง จึงเป็นโรคที่รักษาหายได้โดยการผ่าตัด
โรคมะเร็ง VS เนื้องอก
โรคมะเร็งต่างจากเนื้องอกตรงที่ก้อนเนื้อหรือแผลมะเร็งจะโตเร็วลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เข้าต่อมน้ำเหลือง และแพร่กระจายเข้าหลอดเลือด กระแสเลือด และหลอดน้ำเหลืองหรือกระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยมักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ดังนั้นโรคมะเร็งจึงเป็นโรคเรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต่อเนื่อง
ขบวนการเกิดโรคมะเร็ง
เมื่อร่างกายได้รับสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมี ไวรัส รังสี สิ่งเหล่านี้จะทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงและในที่สุดเซลล์ปกติก็จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ถ้าระบบภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถทำลายเซลล์นั้นได้ เซลล์มะเร็งก็จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นก้อนมะเร็งต่อไป
ผู้หญิงควรสังเกต อาการบ่งชี้และสัญญาณเตือน "มะเร็ง"
แจ้งเตือน “มะเร็งรักษาหายได้ ด้วยต้นกาฝากทับทิม” เป็นข่าวปลอม
สาเหตุโรคมะเร็ง
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของโรคมะเร็ง แต่เชื่อว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งอยู่หลายปัจจัย ดังนี้
1) สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย
1.1 สารเคมีบางชนิด เช่น
- สารเคมีในควันบุหรี่และเขม่ารถยนต์
- สารพิษจากเชื้อรา
- สารพิษที่เกิดจากเนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม
- สีย้อมผ้า
- สารเคมีบางชนิดที่เกิดจากขบวนการทางอุตสาหกรรม
1.2 รังสีต่าง ๆ รวมทั้งรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด
1.3 การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น
- ไวรัสตับอักเสบชนิดบี มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งตับ
- ฮิวแมน แพพพิโลมา ไวรัส (Human Papilloma Virus หรือ HPV) อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งของเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก
- เอบสไตน์ บาร์ ไวรัส (Epstein Barr Virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งโพรงหลังจมูก
- เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลรัย (Helicobacter Pylori) มีความสัมพันธ์กับมะเร็งกระเพาะอาหาร
1.4 พยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ตับ มีความสัมพันธ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
2) สาเหตุภายในร่างกาย
- กรรมพันธุ์ที่ผิดปกติ
- ความไม่สมดุลทางฮอร์โมน
- ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
- การระคายเคืองที่เกิดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน
- ภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น
อาการน่าสงสัยว่าเป็นมะเร็ง
ไม่มีอาการเฉพาะของโรคมะเร็ง แต่เป็นอาการเช่นเดียวกับการอักเสบของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็นมะเร็ง โดยที่แตกต่างคือ มักเป็นอาการที่แย่ลงเรื่อย ๆ และเรื้อรัง ดังนั้นเมื่อมีอาการต่าง ๆ นานเกิน 1 – 2 สัปดาห์ จึงควรรีบพบแพทย์ อย่างไรก็ตามอาการที่น่าสงสัยว่าเป็นมะเร็ง ได้แก่
- มีก้อนเนื้อโตเร็วหรือมีแผลเรื้อรัง ไม่หายภายใน 1 – 2 สัปดาห์หลังจากการดูแลตนเองในเบื้องตัน
- มีต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้ มักจะแข็ง ไม่เจ็บ และโตขึ้นเรื่อย ๆ
- ไฝ ปาน หูดที่โตเร็วผิดปกติหรือเป็นแผลแตก
- หายใจหรือมีกลิ่นปากรุนแรงจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- เลือดกำเดาออกเรื้อรัง มักออกเพียงข้างเดียว (อาจออกทั้งสองข้างได้)
- ไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด
- มีเสมหะ น้ำลาย หรือเสลดปนเลือดบ่อย
อาการโรคมะเร็ง
- อาเจียนเป็นเลือด
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ปัสสาวะบ่อย ขัดลำ ปัสสาวะเล็ด โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
- อุจจาระเป็นเลือด มูก หรือเป็นมูกเลือด
- ท้องผูกสลับท้องเสีย โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
- มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ หรือมีประจำเดือนผิดปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยหมดประจำเดือน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น อึดอัดท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
- มีไข้ต่ำ ๆ หาสาเหตุไม่ได้
- มีไข้สูงบ่อย หาสาเหตุไม่ได้
- ผอมลงมากใน 6 เดือน น้ำหนักลดลงจากเดิม 10%
- มีจ้ำห้อเลือดง่ายหรือมีจุดแดงคล้ายไข้เลือดออกตามผิวหนังบ่อย
- ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง หรือแขน / ขาอ่อนแรง หรือชักโดยไม่เคยชักมาก่อน
- ปวดหลังเรื้อรังและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจร่วมกับแขน / ขาอ่อนแรง
วินิจฉัยมะเร็ง
การวินิจฉัยโรคมะเร็งมีหลายวิธี เช่น
- การตรวจร่างกายด้วยตนเองและโดยแพทย์
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ และเสมหะ
- การตัดชิ้นเนื้อที่สงสัยส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
- การตรวจทางรังสี เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การเอกซเรย์เฉพาะอวัยวะ และการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
- การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษส่องกล้องโดยตรง เช่น การตรวจลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก กระเพาะอาหารและลำคอ เป็นต้น
- การตรวจพิเศษอื่น ๆ
ระยะของมะเร็ง
ระยะโรคมะเร็ง คือ ตัวบอกความรุนแรงของโรค (การลุกลามและแพร่กระจาย) บอกแนวทางการรักษา และแพทย์ใช้ในการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง
โดยทั่วไปโรคมะเร็งมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 – 4 ซึ่งทั้ง 4 ระยะ อาจแบ่งย่อยได้อีกเป็นอีกเป็น เอ (A) บี (B) หรือ ซี (C) หรือ เป็น (1) หรือ (2) เพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้ช่วยประเมินการรักษา ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เพราะเซลล์เพียงมีลักษณะเป็นมะเร็ง แต่ยังไม่มีการรุกราน (Invasive) เข้าเนื้อเยื่อข้างเคียง
- ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ / แผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม
- ระยะที่ 2 : ก้อน / แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามภายในเนื้อเยื่อ/อวัยวะ
- ระยะที่ 3 : ก้อน / แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ / อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อ / อวัยวะที่เป็นมะเร็ง
- ระยะที่ 4 : ก้อน / แผลมะเร็งขนาดโตมาก และ / หรือลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ / อวัยวะข้างเคียง จนทะลุ และ / หรือเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนมะเร็ง โดยพบต่อมน้ำเหลืองโตคลำได้ และ / หรือมีหลากหลายต่อม และ / หรือ แพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต และ / หรือ หลอดน้ำเหลือง / กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ / อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ในช่องอก และ / หรือต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
ตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง คือ การตรวจให้พบโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะยังไม่มีอาการ (มักเป็นมะเร็งในระยะ 0 หรือระยะ 1) ทั้งนี้เพราะโรคมะเร็งในระยะนี้มีโอกาสรักษาได้หายสูงกว่าโรคมะเร็งในระยะอื่น ๆ การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ คือ การตรวจที่เมื่อพบโรคแล้ว ภายหลังการรักษาผู้ป่วยจะมีอัตรารอดจากมะเร็งสูงขึ้นหรือมีอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลดลงนั่นเอง
ปัจจุบันการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ คือ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่
ป้องกันโรคมะเร็ง
วิธีป้องกันโรคมะเร็งที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ ซึ่งที่สำคัญ คือ
- กินอาหารมีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ทุกวันในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไม่ให้อ้วนหรือผอมเกินไป โดยจำกัดเนื้อแดง แป้ง น้ำตาล ไขมัน เกลือ แต่เพิ่มผัก ผลไม้ให้มาก ๆ
- ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพสม่ำเสมอ
- เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง / การตรวจสุขภาพประจำปี
- หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ
สุดทนควันบุหรี่ แจ้ง ตร. ตะลึงพบแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาครึ่งร้อย