“กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด” เลือกทานแบบไหนให้ได้ประโยชน์
“กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด” เป็นเทรนด์รักษาสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่อ้างว่าในอาหารมีโปรตีนที่จะส่งผลดีหรือเสียในแต่ละกรุ๊ปเลือดแตกต่างกัน แต่จะเลือกทานแบบไหนให้ได้ประโยชน์ เช็กที่นี่!
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากพฤติกรรมการกินอาหาร ดังคำว่า “You are what you eat” หรือ “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น” ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีเราควรดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมกับตัวเราเองด้วย อย่างการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด
การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นเทรนด์รักสุขภาพของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเริ่มจาก Dr.Peter J. D’Adamo แพทย์ทางเลือกจากสหรัฐอเมริกาที่ได้เขียนหนังสือชื่อว่า “EAT RIGHT 4 YOUR TYPE”
“กรุ๊ปเลือด” บ่งบอกความเสี่ยง "โรคหัวใจ-หลอดเลือด"
สารพัดคุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง “น้ำตาลธรรมชาติ” ชุ่มคอแก้ไอสดชื่น
โดยอ้างอิงผลงานการศึกษาด้านชีวเคมีหลาย ๆ ชิ้นงาน อธิบายไว้ว่า ในอาหารที่เรากินมีโปรตีน “เลคติน” ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับหมู่เลือดจนทำให้เกิดผลเสีย หรือทำให้ภูมิคุ้มกันตกถ้ารับประทานอาหารไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
โดยมีข้อมูลจากสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (American Heart Association) เปิดเผยว่า ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A, B หรือ AB มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจวาย หรือหัวใจล้มเหลวมากกว่าคนที่มีกรุ๊ปเลือด O อย่างไรก็ตามผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O อาจมีความเสี่ยงต่อการตกเลือดหรือมีเลือดออกผิดปกติ โดยเฉพาะช่วงหลังคลอด มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น นอกจากนี้ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น สำหรับความบกพร่องทางสติปัญญา เช่น การจดจำปัญหา การเพ่งสมาธิ หรือการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามทฤษฎีการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดนี้ ยังมีข้อโต้แย้งจากนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และนักโภชนาการจำนวนหนึ่ง เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานยืนยันที่ชัดเจนทางการแพทย์ว่า การเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับหมู่เลือด จะช่วยให้สุขภาพดีและสามารถรักษาโรคบางโรคได้แต่อย่างใด
แต่หากใครต้องการจะดูแลสุขภาพ อยากเลือกรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย เพราะล้วนอยู่ในอาหารหลัก 5 หมู่ แต่ควรรับประทานตามความเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
“กรุ๊ปเลือด” คืออะไร
ในร่างกายของคนเรามีกลุ่มเลือดหลักอยู่ คือ A, B, O และ AB โดยในเม็ดเลือดของเราจะมีโปรตีนแอนติเจน (Antigen) และในหมู่เลือดของมนุษย์จะมีหมู่เลือดที่เราคุ้นเคย และรู้จักกันดีอยู่ 2 ระบบ ได้แก่
- ระบบ ABO (เอบีโอ) คือ หมู่เลือดที่แบ่งเป็น A, B, O และ AB ซึ่งคนไทยส่วนมากจะอยู่ในหมู่เลือดโอ
- ระบบ Rh (อาร์เอช) จะแบ่งเป็น Rh (+) (อาร์เอชบวก) และ Rh (-) (อาร์เอชลบ) ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ที่มีหมู่เลือดอาร์เอชบวก มีเพียงประมาณ 0.3% ของประชากรทั้งหมดที่จะมีหมู่เลือดอาร์เอชลบ
ทว่าแอนติเจนซึ่งเป็นสารคาร์โบไฮเดรตในร่างกายคนในแต่ละกรุ๊ปเลือด อาจส่งเสริมให้จุลชีพบางชนิดจับกับเซลล์ผิวได้ดี ดังนั้นจึงมีการจัดกลุ่มแอนติเจนจากอาหารที่เข้ากันหรือไม่เข้ากันกับแอนติเจนของหมู่เลือด เกิดเป็นเทรนด์กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด
เมนูอาหารแนะนำ เพื่อสุขภาพที่ดีตามกรุ๊ปเลือด
- กรุ๊ปเลือด A
คนที่มีเลือดกลุ่มนี้จะย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ค่อยดีนัก แนะนำให้รับประทานเนื้อปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาทู ปลาแซลมอน ปลากระพง หรือหากอยากเสริมโปรตีนแนะนำให้รับประทานประเภทนมถั่วเหลืองแทนนมวัว หรือทานถั่วเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วลิสง เมล็ดฟักทอง และเต้าหู้
นอกจากนี้ยังเน้นหนักให้รับประทานผักที่มีกากใยมากขึ้น เพื่อช่วยปัญหาเรื่องระบบย่อย และยังเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย โดยสามารถทานได้แทบจะทุกชนิด เช่น บร็อคโคลี่ แครอท ฟักทอง ผักโขม พร้อมกับรับประทานผลไม้ แต่ผลไม้ที่อยากให้หลีกเลี่ยง คือ ส้ม และมะละกอ เพราะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ส่วนเครื่องดื่มสำหรับคนเลือดกรุ๊ปเอ ที่ติดกาแฟ ทฤษฎีนี้ระบุว่าเพียงวันละหนึ่งแก้วก็เพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มนมวัว เบียร์ และโซดา
- กรุ๊ปเลือด B
ป็นหมู่เลือดที่อยู่ง่าย กินง่าย รับประทานอะไรก็ได้ สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย อาทิ ไก่ ปลา ปลาแซลมอน ปลาเนื้อขาว กุ้ง ปู ส่วนนม เนย และไข่ กินได้ในปริมาณที่เหมาะสม แนะนำให้รับประทานข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และหลีกเลี่ยงแป้งสาลี แป้งโฮลวีท และถั่วลิสง เพราะไม่ดีต่อระบบเผาผลาญ ทำให้อ้วนง่าย ส่วนผักแนะนำในกลุ่มผักใบเขียวเพราะมีแมกนีเซียมสูง ช่วยป้องกันอาการผื่นคันและภูมิแพ้ได้
ว่ากันว่าหมู่เลือด B จะแพ้อากาศได้ง่าย ส่วนผลไม้กินได้แทบทุกชนิด แต่ก็ควรเลี่ยงผลไม้รสหวาน หรือรับประทานให้น้อยลง แนะนำให้ทานสับปะรดเพราะมีเอนไซม์ช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น และทานกล้วยซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย
ด้านเครื่องดื่มด้วยเหตุที่บอกว่าหมู่เลือดนี้แพ้อากาศง่าย จึงแนะนำให้ดื่มน้ำขิง ชาเชียว โสม และเปปเปอร์มิ้นท์ นอกจากช่วยแก้หวัด ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นแล้วยังช่วยบำรุงประสาทอีกด้วย
- กรุ๊ปเลือด O
หมู่เลือดนี้ กระเพาะอาหารมีความเป็นกรดสูง ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี จึงหิวง่าย และอ้วนง่าย ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันไม่สูง เช่น เนื้อปลา กุ้ง ปู มากกว่าเนื้อหมู ส่วนผักที่เป็นประโยชน์ต่อหมู่เลือดนี้ คือ ผักบร็อคโคลี่ ผักกาดคอส ผักคะน้า หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายทะเล ไม่แนะนำผักใบขาวอย่างกะหล่ำปลี เพราะจะไปก่อกวนการทำงานของไทรอยด์
ส่วนผลไม้สามารถรับประทานผลไม้ได้ทุกชนิดโดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ ที่จะช่วยสร้างสมดุลให้ระดับกรดในกระเพาะอาหารได้
ด้านเครื่องดื่ม ที่กล่าวมาข้างต้นว่าหมู่เลือดนี้กระเพาะอาหารมีความเป็นกรดสูง จึงควรเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ เบียร์ เพราะจะไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะ
- กรุ๊ปเลือด AB
เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B วิธีรับประทานอาหารที่เหมาะสมระบุไว้ว่าสามารถรับประทานแบบลูกผสม เช่น วันนี้จะเน้นเนื้อ วันนี้จะเน้นผักสลับกันไปมาได้ แต่ถ้าให้แนะนำอยากให้รับประทานเนื้อสัตว์แต่พอประมาณ ถ้าเป็นเนื้อปลาก็ยิ่งดีต่อร่างกาย
ทั้งนี้อาจเลือกรับประทานอาหารประเภทถั่วเพิ่มก็ได้ อาทิ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ก็มีประโยชน์ช่วยให้โปรตีนต่อร่างกายเช่นกัน ส่วนผัก แนะนำให้รับประทานผักสดโดยเลือกเมนูเป็นน้ำพริกผัก หรือสลัดก็ได้ ด้านผลไม้ ควรทานผลไม้ที่วิตามินซีสูง เช่น ส้มโอ ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ
สำหรับเครื่องดื่มชา กาแฟ ดื่มได้พอประมาณ แนะนำให้ดื่มชาคาโมมายล์ และชาเขียว เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันลองพิจารณาดูว่าแบบไหนเหมาะกับเรา แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าละเลยอาหารที่มีกากใย เพื่อช่วยเรื่องของระบบการขับถ่าย บวกกับขยันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตรวจเช็คสุขภาพประจำปี แค่นี้เราก็มีสุขภาพที่ดีได้
แม้การรับประทานอาหารอาหารตามกรุ๊ปเลือดจะยังไม่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าช่วยรักษาโรคได้หรือไม่ แต่หลักการกินนี้ก็แนะนำให้เรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดังนั้นถ้าเราเลือกทานตามอย่างเหมาะสม ไม่กินอาหารเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปด้วย โรคภัยไข้เจ็บใด ๆ ก็ไม่อาจมาทำร้ายสุขภาพของเราได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล และ ศูนย์สารนิเทศทางอาหาร สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์