“น้ำอัดลม” ดื่มเกิดลิมิตเสี่ยงโรครุมเร้า ร่างพัง อัตราหัวใจล้มเหลวเพิ่ม 23%
งานวิจัยชี้ชัด น้ำอัดลม-น้ำหวานน้ำตาลสูงผสมโซดา เพิ่มความเสี่ยงโรครุมเร้า ทั้งร่างกายและจิตใจ เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจล้มเหลวได้ถึง 23% ทำร้ายตับเท่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
รู้หรือไม่ ? น้ำอัดลม 1 กระป๋อง ขนาด 325 ซีซี มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด และหากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา
การศึกษาเชิงวิชาการเปิดเผยถึงผลกระทบจากการบริโภคโซดาในปริมาณมาก ซึ่งงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อย่าง น้ำอัดลม,น้ำหวานเทียม สามารถช่วยเพิ่มน้ำหนักได้
ภัยร้ายจากชานมไข่มุก "น้ำตาล - คาเฟอีน" ส่งผลต่อสุขภาพ
หวานมากไปร่างกายพัง! แนะปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวัน - วิธีเผาผลาญ
เช่นเดียวกับการเพิ่มความเสี่ยงการเกิดความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ รวมไปถึงโรคกระดูกพรุนและโรคตับ ซึ่งเป็นอันตรายต่อตับได้พอๆกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเอกสารงานวิจัยอีกฉบับในปี 2560 พบว่าผู้ที่ดื่มโซดาน้ำอัดลม เป็นประจำมีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาวะสมองเสื่อมและโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้ที่ไม่ ดื่มถึงสามเท่า งานวิจัยนี้เป็นการติดตามผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ใหญ่ขึ้นซึ่งพบว่าการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอย่างต่อเนื่องทำให้สมองมีปริมาณน้อยลงและความจำแย่ลง ในความเป็นจริง และผลข้างเคียงเหล่านี้จากการดื่มน้ำหวานเพียงสองแก้วต่อวัน
ทั้งนี้ผลการวิจัยไม่ได้เหมารวมไปถึงการบริโภคน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ ทว่าจุดสำคัญที่ทำให้น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจล้มเหลวได้อยู่ที่สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลนั่นเอง
ดื่มแต่ "น้ำหวาน" เลี่ยง "น้ำเปล่า" ภัยเงียบสะสมทำป่วยหนักไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ น้ำอัดลมและน้ำหวานผสมโซดาต่างๆ ยังเป็นผลเสียกับร่างกายในทุกด้าน
- ฟันสึกกร่อน เพราะกรดและน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของน้ำอัดลม ทำลายผิวชั้นนอกของฟัน
- ขาดวิตามิน เพราะการกินอย่างไม่พอดีจนทำให้ไม่มีวิตามินจากผักผลไม้เข้าไปช่วยซ่อมแซมร่างกาย
- นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น เนื่องจากฤทธิ์ของคาเฟอีนที่เป็นองค์ประกอบในน้ำอัดลมไปกระตุ้นระบบประสาท หากมีอาการติดแล้ว อาจส่งผลให้เกิดซึมเศร้าได้อีกด้วย
- โรครุมเร้า ทั้งโรคอ้วน ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบหัวใจและหลอดเลือด แถมยังทำให้กระดูกอ่อนแอเพราะขาดแคลเซีย มการดื่มน้ำอัดลมทุกวันทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากน้ำอัดลมมีโมเลกุล ‘Benzene’ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง จากสารทดแทนความหวานทำให้ส่งผลเสียต่อไตเป็นอย่างมาก และอาจจะเสี่ยงไตวายได้อีกด้วย
- ระบบขับถ่ายพัง เพราะอาการปวดท้อง แน่นท้อง ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารน้อยลงหรือย่อยยากขึ้น รวมถึงเป็นโรคกระเพาะ หากดื่มตอนท้องว่าง อย่างตอนเช้าอีกด้วย
- ติดหวานไปโดยปริยาย แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ระบุว่าน้ำตาลแต่นั้นไม่ได้ปราศจากความหวาน ทำให้คุณติดหวาน ไม่ได้หมายถึงแต่น้ำแต่รวมถึงอาหารที่คุณอยากกินด้วย หวานแล้วหวานอีก คราวนี้แหละคะ โรคอยู่ไม่ไกล
ทั้งนี้ ทุกงานวิจัยและผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่า น้ำเปล่า เป็นน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะมีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มแก้กระหายได้ดีทำให้ตื่นตัวเวลาง่วงยามบ่ายๆ หากกินอย่างพอเหมาะ เพราะถ้าเกิดอาการติดขึ้นมา รับรองว่าโรครุมเร้าแน่นอนค่ะ
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ,กรมอนามัย,womansworld