5 ผลไม้วิตามินซีสูง เสริมภูมิต้านทานต้านอนุมูลอิสระ

วิตามินซี หรือกรดแอสคอบิค (Ascobic Acid) เป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง แต่กลับมีประโยชน์ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มการต้านอนุมูลอิสระจากมลพิษต่างๆ ที่ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยชะลอริ้วรอยความชรา ส่งผลให้มีผิวพรรณที่มีสุขภาพดีขึ้นป้องกันโรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคที่มาจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เส้นเลือดอุดตันในหลอดลม เป็นต้น  

ผัก 5 ชนิด “วิตามินซีสูง” ช่วยดูแลผิว ต้านหวัดป้องกันติดเชื้อไวรัส

ความลับของ “วิตามินซี” กินวันละเท่าไหร่มีผลดีต่อร่างกายมากที่สุด?

วิตามินซีสามารถหาได้จากวัสดุดิบตามธรรมชาติ ทั้งผักและผลไม้นานาชนิด แต่มีผลไม้บางชนิดที่มีวิตามินซีอยู่ปริมาณมากและร่างกายต้องการแถมอร่อยอีกด้วย!

5 ผลไม้วิตามินซีสูง

• ส้ม วิตามินซี 53.2 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

ผลไม้ยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติ เปรี้ยวหวานที่อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด และมีให้เลือกกินหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังมีใยอาหารที่ช่วยในระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน โดยสามารถกินได้ทั้งจากผลส้มหรือคั้นเป็นน้ำก็ได้

• สตรอว์เบอร์รี วิตามินซี 58.8 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

สตรอว์เบอร์รีถือว่าเป็นผลไม่ที่อุดมไปด้วยโภชนาการที่หลากหลายทั้ง วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง ช่วยในการบำรุงดวงตาและลดการเสื่อมสภาพของดวงตา และพบว่าในสตรอเบอร์รี่สดจะให้วิตามินในปริมาณมาก

• มะขามป้อม วิตามินซี 276 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

มะขามป้อมเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากอีกทั้งยังถูกนำมาใช้เป็นยาเพื่อ รักษาโรคหลายชนิด เช่น ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค แก้ไอ ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นต้น โดยพบว่าในผลของมะขามป้อมมีสารป้องการเกิดออกซิไดซ์ของวิตามินซี ทำให้วิตามินซีไม่เสื่อมสภาพแม้จะถูกความร้อน  

“วิตามินซี” กับประโยชน์ด้านผิวพรรณที่ผู้หญิงต้องชอบ!

• ลิ้นจี่ วิตามินซี 71.5 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

รู้หรือไม่ ? ลิ้นจี่เพียงวันละ 3 ผลก็ได้รับปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการได้ ด้วยรสชาติที่หวานหอมและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินบี 1 ที่ช่วยป้องกันอาการเหน็บชา นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงหลอดเลือดและกระดูกและฟัน

• ฝรั่ง วิตามินซี 160 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

ถึงฝรั่งจะไม่ใช่ผลไม้ที่รสเปรี้ยว แต่ก็อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณมากโดยพบได้บริเวณเปลือกของฝรั่ง แต่เมื่อฝรั่งสุกแล้วจะมีปริมาณวิตามินซีที่น้อยลง หรือฝรั่งที่ตัดออกจากต้นแล้วทิ้งไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพลงได้

ทั้งนี้ถึงแม้ผลไม้ดังกล่าวจะมีวิตามินที่สูงมากที่แนะนำว่าให้กินแบบผลสดมากกว่าแบบน้ำผลไม้ตามท้องตลาดเพราะอาจแฝงไปด้วยน้ำตาลที่ทะลุเพดาน และควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญหากอยากสุขภาพดีต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก :Shutterstock

“วิตามินซี” กับประโยชน์ด้านผิวพรรณที่ผู้หญิงต้องชอบ!

6 ผลไม้สีแดงชะลอวัย เติมน้ำให้ผิวเต่งตึง ป้องกันแสงแดดจากภายใน