วิจัยพบ แอลคาร์นิทีน เพิ่มอัตราเผาผลาญ ลดมวลไขมัน เสริมมวลกล้ามเนื้อ
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ตัวช่วยลดน้ำหนักแบบสุขภาพดี เผยแหล่งอาหารจากธรรมชาติ เพื่อผลลัพธ์การออกกำลังกายที่มากกว่า
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) สารที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองที่ตับและไต จากกรดอะมิโน 2 ตัวที่มีชื่อว่า Lysine และ Methionine ซึ่งร่างกายนำไปใช้ในกระบวนการดึงไขมันเข้าไปสร้างเป็นพลังงาน แอลคาร์นิทีนจึงมีบทบาทสำคัญต่อขบวนการสลายกรดไขมันในร่างกาย
งานวิจัยของ The Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ได้ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแอลคาร์นิทีนในผู้หญิงน้ำหนักมาก โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบกัน 4 กลุ่ม
- กลุ่มที่ 1 ให้ยาหลอก
- กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานแอลคาร์นิทีน
8 วิตามิน ธรรมชาติช่วยเรื่องผิวพรรณ ฟื้นฟูจากแดด ตามที่แพทย์แนะนำ
โกโก้ ช่วยต้านเศร้า-เสริมภูมิ แพทย์แนะกินให้ถูกช่วยสุขภาพมากกว่า!

- กลุ่มที่ 3 ออกกำลังกายและทานยาหลอก
- กลุ่มที่ 4 ให้ออกกำลังกายร่วมกับรับประทานแอลคาร์นิทีน
จากการติดตามผลที่ 8 สัปดาห์พบว่า ในกลุ่มที่มีการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและทานแอลคาร์นิทีนวันละ 2 กรัม สามารถลดการอักเสบในร่างกาย (hs-CRP) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีการศึกษาให้รับประทานวันละ 2 กรัม ในกลุ่มคนสูงอายุและติดตามผลพบว่า ปริมาณของกล้ามเนื้อมากขึ้นและไขมันลดลง และยังลดความอ่อนล้าของร่างกายลง
แอลคาร์นิทีนนับเป็นสารที่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยมากและให้ประสิทธิภาพสูง หากใช้ควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 40 – 50 นาทีขึ้นไปจึงจะช่วยสลายไขมันได้ โดยในนักกีฬาหรือคนที่กินแอลคาร์นิทีนเสริมสำหรับการเล่นกีฬาเพื่อช่วยในการสลายไขมันและช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อดีขึ้น ควรจะต้องหยุดใช้เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักบ้างอย่างน้อยเดือนละ 1 สัปดาห์และไม่ควรใช้ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
แหล่งแอลคาร์นิทีนตามธรรมชาติ
- อาหารจำพวกกลุ่มเนื้อแดง
- เนื้อปลา เนื้อสัตว์ปีก
- ถั่ว
- อะโวคาโด
- เทมเป้
- ข้าวสาลี
- หน่อไม้ฝรั่ง
- อะโวคาโด
- เนยถั่ว
กินเส้นไหนอ้วนน้อยที่สุด? เผยแคลอรีเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ควรรู้!
สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมแอลคาร์นิทีนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
- แอลคาร์นิทีน (LC) ค่อนข้างนิยมใช้อย่างแพร่หลาย
- แอลอะซิทิลคาร์นิทีน [L-Acetylcarnitine (LAC)] เป็นรูปแบบเดียวที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ และโรคเกี่ยวกับความผิดปกติของสมองอื่น ๆ
- แอลโพรพิโอนิลคาร์นิทีน L-Propionylcarnitine (LPC) มีประสิทธิภาพ ใช้ได้ผลดีกับโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดตามแขนขาที่มีสาเหตุจากเบาหวานหรือเส้นเลือดแข็ง
แม้แอลคาร์นิทีนจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน มีงานวิจัยระบุว่า การรับประทานแอลคาร์นิทีนมากถึง 5 กรัม หรือ 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือมากกว่าอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อยากอาหารเพิ่มขึ้น มีกลิ่นตัว มีผื่นแดง เป็นต้น
ทั้งนี้ การลดน้ำหนัก คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง แอลคาร์นิทีนเป็นสารที่ช่วยทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันไปสร้างเป็นพลังงานเท่านั้น อีกทั้งหากต้องการให้ผลรับที่ดีกว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนกินอาหารเสริมที่มีแอลคาร์นิทีนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มากกว่า!
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ และ food network solution
เพิ่มแมกนีเซียมในมื้ออาหารลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ 12 เปอร์เซ็นต์
5 สารปนเปื้อนในอาหารที่พบได้ทุกวัน กินมากเสี่ยงแพ้รุนแรง ก่อมะเร็งได้