แหล่ง “คอลลาเจน” จากธรรมชาติ ช่วยผิวเรียบเนียน กระชับแข็งแรง

คอลลาเจน (collagen) เป็นโปรตีนในกลุ่มโปรตีนเส้นใย (fibrous protein) พบมากที่สุดในทุกสัตว์ปริมาณ 1 ส่วนใน 3 ส่วนของโปรตีนทั้งหมด พบได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ผิว เส้นผม กระดูก ข้อต่อ กระดูกอ่อน เล็บ ผนังหลอดเลือด เป็นต้น

คอลลาเจน ทำหน้าที่เสมือนกาวที่ยึดเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน ทั้งยังป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย และเชื่อมโครงสร้างอวัยวะต่างๆให้อยู่ด้วยกัน คอลลาเจนใต้ผิวหนังของคนเราจะอยู่ในผิวหนังชั้นหนังแท้

สารต้านอนุมูลอิสระใน ไวน์แดงและไวน์ขาว กินพอดีช่วยสุขภาพ

สารในชาเขียว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดไขมันน้ำตาลในเลือดลดเสี่ยงโรคมะเร็ง

ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อ เสริมความเรียบตึงของ ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ แข็งแรง เรียบเนียน ชุ่มชื้น บทบาทของคอลลาเจนนี้จะอยู่คู่กับโปรตีนที่สำคัญ อีกชนิดหนึ่งคือ อีลาสติน โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิว อีลาสตินจะมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวไม่เกิดริ้วรอย

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีความงามและเทคโนโลยีการผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์ที่ก้าวหน้าทำให้เรามีช่องทางการเพิ่มคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น แต่วิธีที่ง่าย สะดวก ประหยัด และปลอดภัยที่สุดก็คือวิธีธรรมชาติ นั่นคืออาศัยคอลลาเจนจากแหล่งอาหารธรรมชาติ

แหล่งอาหารที่มีคอลลาเจน

• คอลลาเจนพืชต่างๆ เช่น สาหร่ายทะเล ถั่วเหลือง เห็ดทุกชนิด หัวบุก ส้มโอ แอปเปิล แก้วมังกร แตงกวา คึ่นฉ่าย เป็นต้น 

• คอลลาเจนในสัตว์ เช่น ปลาทะเลน้ำลึก ปลาทู ปลากระเบน ซึ่งจะพบมากในกระดูกของปลาและตาปลามีลักษณะเป็นเหมือนวุ้นใสๆ หรือในกระดูกอ่อนของไก่และหมู

สังเกตได้จากเมื่อนำมาต้มน้ำซุปและวางทิ้งไว้ในตู้เย็นหรือในที่อากาศเย็นๆ คอลลาเจนจะแข็งตัวเป็นวุ้นอยู่ ก้นถ้วย ส่วนที่ลอยอยู่ผิวหน้าข้างบนจะเป็นไขมัน

เกณฑ์กำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะนำให้รับประทานคอลลาเจนจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ 5-7 กรัม (5,000-7,000 มิลลิกรัม) ต่อวัน ไม่ควรรับประทานเกิน 10 กรัม (10,000 มิลลิกรัม) ต่อวัน เพื่อป้องกัน อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผู้บริโภคได้ฉะนั้นควรเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ได้การรับรอง

สารต้านอนุมูลอิสระ จากธรรมชาติ ช่วยชะลอวัย ลดเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม

นอกจากนี้การทานคอลลาเจนปริมาณมากๆในแต่ละวัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยทำให้ผิวสวยเต่งตึงได้เร็วขึ้น การได้รับคอลลาเจนในปริมาณน้อยๆ เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

อย่างไรก็ตามการใส่ใจสุขภาพในทุกด้าน หลีกเลี่ยงปัจจัยการสร้างอนุมูลอิสระด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะ ลดอาหารไขมัน ลดอาหาร คาร์โบไฮเดรต รับประทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ออกกำลังกายเป็นประจำ งดสารเสพติด เช่น บุหรี่ สุรา และลดความเครียดก็ช่วยได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ

10 ขนมขบเคี้ยวสุดเฮลท์ตี้ อร่อยด้วยแถมช่วยชะลอวัยด้วย

สารต้านอนุมูลอิสระ จากธรรมชาติ ช่วยชะลอวัย ลดเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม