10 อันดับ ผลไม้หาง่ายแหล่งวิตามินอี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
ผลไม้ นับเป็นของโปรดของใครหลายคน เผยแหล่งวิตามินอี จากผลไม้หาได้ง่าย 10 อันดับแรก กินแต่พอดีช่วยดูดซับอนุมูลอิสระ
วิตามินอี (Vitamin E) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันที่สำคัญ แหล่งสารต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์โดยดูดซับอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อถูกทำลาย รวมถึงช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือดแดง ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด และลดการเกิดกระบวนการอักเสบในร่างกายที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆปริมาณวิตามินอีอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวัน (Dietary Reference intake; DRI) สำหรับผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินอี 15 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารและยาจีน ช่วยฟื้นฟูและบำรุงปอดตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
“สาหร่ายสไปรูลิน่า” แหล่งโปรตีนจากพืชเหมาะสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ
Freepik/Aala images
ขนุน

ผลไม้แหล่งวิตามินอี 10 อันดับแรก
ปริมาณต่อ 100 รัม
- ขนุนหนัง ปริมาณ 2.38 mg
- มะขามเทศ ปริมาณ 2.29 mg
- ตะขบ ปริมาณ 1.90 mg
- มะม่วงเขียวเสวยดิบ ปริมาณ 1.52 mg
- มะม่วงหนังกลางวันสุก ปริมาณ 1.26 mg
- มะเขือเทศราชินี ปริมาณ 1.34 mg
- มะม่วงเขียวเสวยสุก ปริมาณ 1.23 mg
- มะม่วงน้ำดอกไม้สุก ปริมาณ 1.10 mg
- มะม่วงยายกล่ำสุก ปริมาณ 0.97 mg
- แก้วมังกรเนื้อสีชมพู ปริมาณ 0.59 mg
- สตรอเบอรี ปริมาณ 0.54 mg
ผลไม้นอกจากจะเป็นแหล่งของวิตามินอีแล้วยังเป็นแหล่งของวิตามินชนิดอื่น รวมถึงแร่ธาตุใยอาหาร และพลังงาน ผลไม้ให้คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 10-35 ซึ่งผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมักจะมีรสหวานจัด ดังนั้นการบริโภคแต่ละครั้งควรจำกัดในปริมาณที่พอเหมาะก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนั้นควรบริโภคอาหาร ให้ได้พลังงานอย่างเพียงพอครบ 5 หมู่ และได้รับสารอาหารครบถ้วน รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
5 แหล่งวิตามินปราการผิว ช่วยบำรุงลดรอยด่างดำ เหี่ยวย่นช่วยชะลอวัย