อาหารใยอาหารสูง สำหรับผู้สูงอายุท้องผูก มีปัญหาด้านการบดเคี้ยว
นอกจากอาการท้องผูกในผู้สูงวัยจะมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง เผยเทคนิคและอาหารที่มีโภชนาการและใยอาหารสูง เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุมักท้องผูก เพราะ นอกจากระบวนการย่อยทำหน้าที่ลดลง ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มีปัญหาท้องผูกมักเกิดจากปัจจัยร่วมหลายอย่าง ดังนี้ ปัญหาเรื่องฟันและช่องปาก ดื่มน้ำน้อย ขาดการออกกำลังกาย รวมไปถึง อาการป่วยเรื้อรัง และได้รับยาบางชนิด ส่งผลให้มีอาการท้องผูก รวมทั้งโภชนาการใยอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากกากใยอาหารมักเคี้ยวยาก มีความเหนียว ยากต่อการเคี้ยวบด ผู้สูงอายุจึงมักเลือกรับประทานอาหารนิ่มที่ขาดใยอาหาร

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยให้ถ่ายคล่อง
- หากมีปัญหาช่องปากและฟัน ผู้สูงอายุควรได้รับการรักษาเพื่อช่วยให้การเคี้ยวอาหารง่ายขึ้น และช่วยให้การรับประทานอาหารมีรสชาติมากขึ้น
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว โดยแบ่งดื่มทั้งวัน
- รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เพื่อเพิ่มกากใยให้อุจจาระคล่องขึ้น
- ออกกำลังกายเบาๆ เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น เดินเล่นหลังรับประทานอาหาร หรือแกว่งแขนยามเช้า จะช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว ช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดีขึ้น
- ทำจิตใจให้แจ่มใส ฝึกขับถ่ายเป็นเวลาทุกวัน และไม่ควรใช้ยาระบายในผู้สูงวัยนานจนติดเป็นนิสัยทำให้ไม่สามารถขับถ่ายด้วยตัวเอง
- ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาที่อาจมีผลทำให้ท้องผูก
ใยอาหารเพื่อผู้สูงอายุ
โดยปกติผู้สูงอายุควรได้รับใยอาหารประมาณวันละ 20 – 35 กรัม แต่ในผู้ที่มีปัญหาท้องผูกควรได้รับอาหารที่มีใยอาหารเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 25 – 60 กรัม การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยเพิ่มกากและน้ำหนักในอุจจาระ รวมถึงกากใยยังช่วยอุ้มน้ำ ทำให้อุจจาระอ่อนและเคลื่อนตัวได้ง่าย ช่วยการขับถ่ายให้สะดวกขึ้น
เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาฟันไม่แข็งแรง หรืออาจไม่มีฟันเลย ส่งผลให้บดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เกิดอาการท้องอืดเฟ้อ อีกทั้งกากใยอาหารส่วนใหญ่พบในผัก ผลไม้ มีเนื้อเหนียว ยากต่อการเคี้ยวให้ละเอียด การดัดแปลงอาหารให้มีลักษณะอ่อนนุ่ม ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย กลืนง่าย จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการประกอบอาหาร ดัดแปลงให้อาหารอ่อนนุ่มลง เช่น การหั่น การสับหรือการปั่นอาหารให้ชิ้นเล็กลงก่อนนำไปประกอบอาหารด้วยวิธีการนึ่ง ตุ๋น หรือการต้มอาหารให้นิ่ม
เลือกอาหารเพื่อเพิ่มกากใย
- เปลี่ยนจากการรับประทานข้าวขาว เป็นข้าวกล้องหุงนิ่ม ข้าวโอ๊ต หรือขนมปังโฮลวีท
- เพิ่มอาหารว่างด้วยการใช้ธัญพืช เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง โดยการต้มให้สุกค่อนข้างนิ่ม
- หั่นผักให้เล็กลงและเลือกการปรุงให้ผักนิ่ม โดยควรรับประทานทุกมื้ออย่างน้อยมื้อละ 100 กรัม
- เลือกผลไม้สุกมากกว่าผลไม้ที่ยังดิบ เพื่อง่ายต่อการเคี้ยว ย่อยง่าย และช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้น
- ปรุงอาหารให้น่ารับประทาน เลือกใช้เครื่องปรุงที่ผู้สูงอายุชอบ เพื่อให้เจริญอาหาร
- ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างมื้ออาหารและระหว่างวัน
ตัวอย่างเมนูอาหาร 1 วัน ใยอาหารสูง! (อย่างน้อย 20 กรัมต่อวัน)
มื้อเช้า
- ข้าวต้มกล้องและกุ้งใส่ผักสามสี (ข้าวโพด แครอท ถั่วลันเตา) และสาหร่ายวากาเมะ
- น้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลักและลูกเดือย
มื้อเที่ยง
- ข้าวกล้องหุงนิ่ม
- กุ้งทอดซอสมะขาม
- ต้มจืดปวยเล้งหมูสับเห็ดหอม
- ถั่วเขียวต้มน้ำตาล (หวานน้อย)
มื้อว่างบ่าย
- ผลไม้ปั่น (ไม่แยกกาก) แอปเปิ้ล 100 กรัม + อะโวคาโด 30 กรัม + ข้าวโอ๊ตสุก 2 ช้อน
มื้อเย็น
- ข้าวกล้องหุงนิ่ม
- ปลานึ่งขิง
- กะหล่ำปลีตุ๋นหมูสับเห็ดหอม
- กล้วยน้ำว้า
ท้องผูก เป็นเรื่องที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ สามารถดีขึ้นได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการดูแลของบุตรหลาน ถ้าพบมีความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์