กินเจ 2568 เลือกคาร์โบไฮเดรตใยอาหารสูง ช่วยระบบย่อย ไม่หิวบ่อย
ช่วงกินเจมักรับประทานแป้งมากขึ้น ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง ลดของหวานมันเค็ม ดื่มน้ำเพียงพอ เลี่ยงอาหารทอดและแปรรูปเพื่อสุขภาพดี
เทศกาลกินเจ หลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรามักรับประทานแป้งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการงดเว้นเนื้อสัตว์ แป้งจึงถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหาร เพื่อให้เทศกาลกินเจของทุกคนได้รับบุญ ควบคู่ไปกับสุขภาพที่ดี วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกรับประทานแป้งหรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า คาร์โบไฮเดรต
กลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง
ส่งผลดีต่อสุขภาพ การเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดดีในร่างกาย ทำให้ลำไส้แข็งแรง ระบบย่อยและดูดซึมอาหารดึขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
ตัวอย่างคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง
- ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ลูกเดือย ข้าวโพด
- ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วเหลือง
- ผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น ฝรั่ง แอบเปิ้ล อีกด้วย
คาร์โบไฮเดรตที่มีน้ำตาลสูง
ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงโรคทางเมตาบอลิก (metabolic syndrome) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน และทำให้ฟันผุอีกด้วย
ตัวอย่างคาร์โบไฮเดรตที่มีน้ำตาลสูง
- ข้าวหรือขนมปังขัดขาว
- ขนมอบ ขนมเบเกอรี่ ขนมหวาน
- น้ำหวาน น้ำอัดลม
- ผลไม้แปรรูปต่าง ๆ
แม้เทศกาลกินเจ จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม
- ผู้บริโภคควรเลือกซื้อหรือปรุงอาหารเมนูประเภทยำ ต้ม นึ่ง ลดอาหารประเภทผัด ทอด
- กินอาหารที่มีรสชาติปานกลาง ไม่หวาน มัน เค็มจัด เพราะส่วนใหญ่อาหารเจ มักออกไปทางมัน
- เลือกกินอาหารเจประเภท ต้ม แกง ย่าง ยำ น้ำพริก กินข้าวแป้งแต่พอดี เลี่ยงอาหารแปรรูป
- อาหารเจส่วนใหญ่จะมีแป้งแฝง เช่น การใช้แป้งหมี่กึงมาทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ ซึ่งทำให้คาร์โบไฮเดรตเกิน อีกทั้งในช่วงกินเจอาจทำให้รู้สึกหิวบ่อย ให้เลือกผลิตภัณฑ์นมจากพืชเสริม โดยเลือกชนิดไม่หวานจัด มีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมเหมาะสม
- งดเครื่องดื่มที่มีรสหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง ไม่ควรเลือกกินเมนูอาหารชนิดเดิมซ้ำทุกวัน จะทำให้เกิดการสะสมสารพิษ และเกิดโรคได้
อีกทั้งควรใส่ใจเรื่องความสะอาดปลอดภัยวัตถุดิบที่นำมาปรุงประกอบอาหาร โดยเฉพาะจากพืชผักควรล้างให้สะอาดหรือเลือกใช้ผักปลอดสารพิษที่มีการรับรองโดยหน่วยงานภาครัฐจากแหล่งผลิตในการปรุงประกอบ อาหารเจแทนการใช้ผักที่มีความเสี่ยงปนเปื้อนสารพิษจะปลอดภัยกว่า สิ่งสำคัญหากในช่วงกินเจดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ใยอาหารเกาะตัวในร่างกายมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ไม่สบายท้อง ได้ จึงควรดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : BDMS Wellness Clinic และ กรมอนามัย
