โควิด-19 BA.5 หลบภูมิคุ้มกันได้ดี เสี่ยงทำคนติดเชื้อซ้ำง่าย
ผู้เชี่ยวชาญประเมิน โควิด-19 โอมิครอน BA.5 เป็น “ไวรัสเวอร์ชันที่แย่ที่สุดที่เราเคยเห็น” เสี่ยงทำให้คนติดเชื้อซ้ำ
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกในปัจจุบันกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ลูกหลานของตระกูลโอมิครอนตัวล่าสุดที่ทั่วโลกกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด
ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการสุ่มตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมาจัดลำดับพันธุกรรมเพื่อจำแนกสายพันธุ์ และพบว่า มีผู้ป่วยมากถึง 52% หรือครึ่งหนึ่งของตัวอย่าง ติดเชื้อโอมิครอน BA.5 เพิ่มขึ้นจาก 37% ของสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ในสหรัฐฯ คาดว่าสัดส่วนสายพันธุ์ที่ระบาดเป็น BA.5 ถึง 65%
WHO กังวล ทั่วโลกลดการตรวจหาเชื้อ ชี้ “โควิด-19 ยังเป็นภาวะฉุกเฉิน”
ผู้ประกันตน ม.33, ม.39 ติดโควิด ใช้ ‘สิทธิประกันสังคม’ อะไรได้บ้าง
เตือน! อย่าซื้อ ‘โมลนูพิราเวียร์’ ตามตลาดมืดเอง หลังพบยาปลอมโผล่สวิตฯ
WHO ยังบอกด้วยว่า การระบาดของ BA.4 และ BA.5 ทำตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 โอมิครอน BA.5 จึงเป็นสัญญาณชัดเจนที่ตะโกนบอกเราดัง ๆ ว่า “โควิด-19 ยังไม่จบ”
ทั้งนี้ โควิด-19 โอมิครอน BA.5 ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะพบการระบาดครั้งแรกตั้งแต่ในเดือน ม.ค. แต่เพิ่งแสดงอิทธิฤทธิ์ที่น่ากังวลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดย WHO ประกาศติดตามการแพร่ระบาดของ BA.5 อย่างใกล้ชิดในเดือน เม.ย.
ข้อมูลของ WHO เผยว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เคสทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว โดยมีสาเหตุหลักมาจาก BA.5 ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษที่น่ากังวลในการ “หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน” ไม่ว่าจะเป็นภูมิที่มาจากการฉีดวัคซีนหรือการติดโควิด-19 ก็ตาม
มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคการรับมือโควิด-19 ของ WHO บอกว่า “ด้วยเหตุนี้ BA.5 จึงมีความได้เปรียบในการเติบโตเหนือโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ”
ฟาน เคอร์โคฟ ยังบอกอีกว่า ด้วยความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เหนือชั้นนี้ ทำให้หลาย ๆ คนที่เคยติดโควิด-19 มีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำมากขึ้น และเสริมว่า ขณะนี้ WHO กำลังศึกษารายงานการติดเชื้อซ้ำที่เกิดจาก BA.5
ด้าน เกรกอรี โปแลนด์ นักไวรัสวิทยาและนักวิจัยวัคซีนของ Mayo Clinic ในเมืองโรเชสเตอร์ รัฐมินเนโซตา สหรัฐฯ เสริมว่าว่า “เรามีหลักฐานเพียงพอว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโอมิครอน กำลังติดเชื้อ BA.5 ซ้ำ”
ขณะที่ เอริก โทปอล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ระดับโมเลกุลที่ Scripps Research นิยามโควิด-19 BA.5 ว่าเป็น “ไวรัสเวอร์ชันที่แย่ที่สุดที่เราเคยเห็น”
โทปอลกล่าวว่า “เดิมโอมิครอนหลบหนีภูมิคุ้มกันได้มากอยู่แล้ แต่ความสามารถของ BA.5 ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกระดับ และด้วยเหตุนั้น ความสามารถในการแพร่เชื้อของมันจึงเหนือกว่าโอมิครอนเวอร์ชันก่อน ๆ”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ BA.5 สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อและวัคซีนครั้งก่อนได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำ
ทั้งนี้ แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้นในบางประเทศ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างที่หลายฝ่ายกังวล สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะวัคซีนยังคงป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีหลักฐานว่า BA.5 มีอันตรายมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่น ๆ
โทปอลกล่าวว่า “เมื่อพิจารณาความสามารถในการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันของ BA.5 เขาคาดว่าจะเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นดังที่เราได้เห็นในยุโรป และที่อื่น ๆ ที่สายพันธุ์นี้ได้หยั่งรากลงไปแล้ว ... เรื่องหนึ่งที่ยังนับว่าดีคือ ดูเหมือน BA.5 จะไม่ได้เพิ่มอัตราการเข้า ICU และการเสียชีวิต แต่นี่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างแน่นอน”
WHO ยังกล่าวด้วยว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ที่กำลังดำเนินอยู่ เป็นปัญหาเรื้อรังยืดเยื้อจากความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงวัคซีน และความปรารถนาของหลายประเทศที่ต้องการ “มูฟออน” จากโควิด-19 โดยการลดความเข้มข้นของมาตรการบางอย่าง จะเสี่ยงทำให้เกิดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่รับมือยากขึ้น
“เมื่อมีการแพร่ระบาดในชุมชนอยู่ในระดับสูง ไวรัสจะกลายพันธุ์ ... ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เรากำลังเล่นกับไฟ” โปแลนด์กล่าว
ก่อนหน้านี้ ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการคณะกรรมการรับมือเหตุฉุกเฉินของ WHO บอกว่า หลายประเทศขณะนี้ เปลี่ยนนโยบายการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้อัตราการตรวจหาเชื้อลดลงอย่างมาก จึงยากต่อการติดตามผู้ป่วยและเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของไวรัส
“ความเปลี่ยนแปลงนี้ขัดขวางการประเมินการแพร่ระบาดและรูปแบบใหม่ของไวรัสในปัจจุบัน” WHO กล่าว
WHO กล่าวว่า วิถีการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 และลักษณะของสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่ยังคงเป็นสิ่งที่ “ไม่แน่นอนและคาดเดาไม่ได้” การไม่มีมาตรการเพื่อตรวจสอบหรือลดการแพร่เชื้อจะเพิ่มโอกาสในการเกิด “โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่มีความแข็งแกร่งขึ้น โดยอาจมีระดับความรุนแรง การแพร่เชื้อ และศักยภาพในการหลบหนีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น”
แพทย์ ชี้หลังหายอาการโควิด น้ำหนักเปลี่ยนแปลงได้
โควิดโอมิครอน BA.5 แพร่ได้เร็วกว่าไวรัสทุกชนิดในโลก
ภาพจาก AFP