ปชช. 62.8% เลือกถอดหน้ากากแค่บางพื้นที่ ย้ำกลุ่มเสี่ยงควรสวมตลอดเวลา
ผลสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากอนามัย หลังปลดล็อกการสวมหน้ากากอนามัยพบประชาชนร้อยละ 36.3 สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด 19 ที่มีมาตรการผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถสวมหน้ากากอนามัยโดยความสมัครใจ โดยปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษาจึงได้ทำการสำรวจการเฝ้าระวังการตัดสินใจ ต่อมาตรการปลดล็อกการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 17 – 30 มิถุนายน 2565 ผ่านระบบออนไลน์
โอมิครอน BA.2.75 พบในไทยแล้ว นักวิจัยคาดมีแนวโน้มแข็งแรงกว่า BA.5
ผลการศึกษาชี้ วัคซีนโควิด-19 เซฟชีวิต "คนไทย" ได้ถึง 490,000 คน
โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาและวิทยาลัยเทคนิคในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 7,507 ราย พบว่า
- ประชาชนร้อยละ 36.3 เลือกจะสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดเหมือนเดิม
- ประชาชนร้อยละ 62.8 เลือกถอดหน้ากากอนามัยบางพื้นที่
- ประชาชนร้อยละ 0.9 เลือกไม่สวมหน้ากากอนามัยเลย
ทั้งนี้ ยังคงมีประชาชนที่เลือกถอดหน้ากากอนามัยในบางสถานที่หรือบางสถานการณ์ที่ยังมีความเสี่ยง ดังนี้
- ในสถานบริการ สถานบันเทิง ร้อยละ 12.53
- ในโรงภาพยนตร์ ร้อยละ 10.35
- ในห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 9.79
- ในตลาด ร้อยละ 8.95
- ในขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 8.78
จากผลสำรวจพบว่าประชาชนไม่สวมหน้ากากในสถานบริการ สถานบันเทิง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด 19 จากการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และหากใช้แก้วน้ำในการดื่มเครื่องดื่มร่วมกันจะแพร่กระจายเชื้อโควิด 19 ได้มากเช่นกัน
ย้ำ“สิทธิบัตรทอง” ถือบัตร ปชช.ใบเดียว ไปรับบริการหน่วยปฐมภูมิได้ทุกที่
"อนุทิน" ยันเตียงเพียงพอรับผู้ป่วยโควิด ขอ ปชช.ฟังข้อมูลจาก สธ.เท่านั้น
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ถึงแม้มีการผ่อนคลายมาตรการให้สวมและถอดหน้ากากตามความสมัครใจ ซึ่งสถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ยังทรงตัวและอาจมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น จึงขอแนะนำให้ประชาชนยังคงป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น ในสถานที่ที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก รวมทั้งสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท
สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการหรือใกล้ชิดบุคคล ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเคร่งครัดมาตรการป้องกันการติดโรคโควิด 19 ขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention : UP) โดยเฉพาะล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ หากสงสัยว่าตนเองเสี่ยงควรตรวจด้วย ATK คัดกรองเบื้องต้น ทุก 3 - 5 วัน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่กระจายไปยังกลุ่มเพื่อน และในครอบครัวต่อไป