วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่มาแล้ว อังกฤษอนุมัติใช้ชาติแรก
อังกฤษอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ของโมเดอร์นา เป็นแบบ “ไบวาเลนต์” ป้องกันได้ทั้งโอมิครอน-สายพันธุ์ดั้งเดิม
หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (MHRA) อนุมัติวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ของโมเดอร์นา (Moderna) เป็นแบบ “ไบวาเลนต์ (Bivalent)” คือสามารถกำหนดเป้าหมายต่อต้านเชื้อได้ทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอน
โดยสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกที่อนุมัติวัคซีนชนิดนี้ ซึ่ง MHRA จะพิจารณาให้ใช้วัคซีนโควิด-19 นี้เป็นเข็มกระตุ้นในประชากรผู้ใหญ่
ต้องรอต่อไป! วัคซีนโควิดรุ่นใหม่ พัฒนาตามไวรัสไม่ทัน
เปิดประสิทธิผลวัคซีนโควิด ฉีดเข็ม 3 ลดป่วย 90% เข็ม 4 อัตรายิ่งสูง
“BA.5” หนีภูมิวัคซีนทุกสูตร – ติดซ้ำได้ใน 2 สัปดาห์
การตัดสินใจของหน่วยงานพิจารณาจากข้อมูลการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นว่า หากฉีดวัคซีนโควิด-19 ไบวาเลนต์ของโมเดอร์นาเป้นเข็มกระตุ้น จะสามารถกระตุ้น “การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง” ต่อทั้งโควิด-19 โอมิครอน (BA.1) และไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในปี 2020
MHRA ยังอ้างถึงการวิเคราะห์เชิงสำรวจซึ่งพบว่า วัคซีนตัวใหม่จากโมเดอร์นานี้ยังสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ดีต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักในปัจจุบันอย่างโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ได้ด้วย
ส่วนผลข้างเคียงหลังฉีดนั้น พบว่า แทบไม่แตกต่างจากวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นารุ่นปัจจุบันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยถึงปานกลางซึ่งสามารถหายได้เอง
ดร.จูน เรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MHRA กล่าวว่า “วัคซีนป้องกันโควิด-19 รุ่นแรกที่ใช้ในสหราชอาณาจักรยังคงให้การป้องกันโรคที่สำคัญและช่วยชีวิตคนได้ แต่สิ่งที่วัคซีนไบวาเลนต์นี้มอบให้เรา คือมันจะเป็นเครื่องมือที่แหลมคมในคลังอาวุธของเราเพื่อช่วยปกป้องเราจากโรคนี้ในขณะที่ไวรัสยังคงพัฒนาต่อไป”
ด้าน ศ.เซอร์ มูเนอร์ เพอร์โมฮาเหม็ด ประธานคณะกรรมาธิการเวชศาสตร์มนุษย์ กล่าวว่า “คณะกรรมาธิการเวชศาสตร์มนุษย์และคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนโควิด-19 ได้ตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผลของวัคซีนไบวาเลนต์ตัวนี้แล้ว และเห็นด้วยกับการตัดสินใจของ MHRA”
เขาเสริมว่า “ไวรัสโควิด-19 มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เราได้รับจากวัคซีน วัคซีนไบวาเลนต์ชนิดใหม่นี้เป็นขั้นตอนต่อไปในการพัฒนาวัคซีนเพื่อต่อสู้กับไวรัส ด้วยความสามารถในการนำไปสู่การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ครอบคลุมกว่าวัคซีนดั้งเดิม”
เรียบเรียงจาก รัฐบาลสหราชอาณาจักร
ภาพจาก AFP