สหรัฐฯ ชื่นชมไทยแก้วิกฤตโควิดได้ดี ทั้งมาตรการสังคม-ยา-วัคซีน
“อนุทิน” หารือทวิภาคี ด้าน รมช.สธ.สหรัฐฯชื่นชมไทยจัดการโควิดได้ดี ประชาชนให้ความร่วมมือสูง ทั้งมาตรการสังคม ยา การดูแลผู้ป่วย และการฉีดวัคซีน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนางแอนเดรีย ปาล์ม (Ms.Andrea Palm) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ สหรัฐอเมริกา ได้หารือแบบทวิภาคี ระหว่างการจัดประชุม APEC Health Week ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขของไทยและสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม
ประชุม APEC Health Week วันที่ 2 หารือรับมือวิกฤตสุขภาพ-ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ยา วิตามิน อาหารเสริม รู้ชัดตัวไหน "ควร - ไม่ควร" กินคู่กัน
นายอนุทิน กล่าวว่า ในการหารือทางสหรัฐอเมริกาได้แสดงความยินดีกับประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม APEC ในครั้งนี้ ซึ่งการหารือโต๊ะกลม หัวข้อ "การลงทุนด้านหลักประกันสุขภาพเพื่อรองรับการระบาดในอนาคต" วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ จะเข้าร่วมและเป็นผู้ร่วมอภิปรายในช่วงการสนทนาเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยังได้เชิญตัวเองเข้าร่วมประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจในปี 2566 ด้วย ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมประเทศไทยที่รับมือสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ประชาชนให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง สามารถดูแลรักษาผู้ติดเชื้อได้อย่างเต็มที่ทั้งเรื่องของยา การดูแลแบบ Home Isolation ฮอสปิเทล (Hospitel) ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การฉีดวัคซีนโควิด-19 และขอบคุณประเทศไทยที่ส่งข้อมูลตัวอย่างเชื้อให้แก่สหรัฐฯ ในช่วงที่เริ่มมีการระบาด ในการนำไปศึกษาวิจัยยาและวัคซีน
ส่วนไทยเองก็ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้ความช่วยเหลือเราในช่วงวิกฤต ในการบริจาควัคซีน mRNA หลายล้านโดส สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ
ชวนชาวพุทธตักบาตรด้วยอาหารสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกันพระสงฆ์ช่วงหน้าฝน
“อนุทิน” ย้ำตั้งแต่ 1 ก.ย. ซื้อยาต้านโควิดต้องมีใบสั่งแพทย์
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สหรัฐฯ ยังชื่นชมบทบาทของประเทศไทยในเรื่องความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก โดยเฉพาะการเป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED)
ไทยก็ขอบคุณสหรัฐฯ ที่แสดงการสนับสนุนการจัดตั้ง ACPHEED ซึ่งเป็นศูนย์ระดับภูมิภาคที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ภูมิภาคอาเซียน ในการเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยประเทศไทยได้เตรียมการและพร้อมที่จะดำเนินการเปิดตัวสำนักเลขาธิการในวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนและเอเปคเข้าร่วมด้วย
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน มีความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ ได้ขอให้ไทยสนับสนุนโครงการของสหรัฐฯ ที่ดำเนินการภายใต้คณะทำงานด้านสุขภาพเอเปค (APEC Health Working Group) รวมถึงหารือเรื่องการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก (Global Health Security Agenda :GHSA)
ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก GHSA ตั้งแต่แรกที่มีก่อตั้งขึ้นในปี 2014 หลังการระบาดของอีโบลาในทวีปแอฟริกา โดยมีกรมควบคุมโรค ประเทศไทย เป็นประธาน Steering Group ของ GHSA ในปี 2564 ขณะนี้มีสมาชิกเข้าร่วม 70 ประเทศทั่วโลก สะท้อนถึงความสำคัญของ GHSA ในการทำให้โลกปลอดภัยยิ่งขึ้นจากภัยคุกคามด้านสุขภาพจากโรคติดเชื้อ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนงานของ GHSA อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในเรื่องของระบบห้องปฏิบัติการ (Lab System) และการพัฒนากำลังคน (Workforce Development) ซึ่งเป็น 2 ใน 9 ด้านของแผนงาน GHSA
เตือนประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ระวัง “จมน้ำ-ไฟดูด-สัตว์มีพิษต่อย”
สธ.เตือนน้ำท่วม ระวังเสี่ยงโรค “อุจจาระร่วง-ฉี่หนู”
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังขอให้ไทยสนับสนุนการฉีดวัคซีนพื้นฐานป้องกันโรคติดต่อให้แก่เด็กตามตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากมีเด็กจำนวนมากในเมียนมาไม่ได้รับการฉีดวัคซีนพื้นฐานที่ป้องกันโรคติดต่อ เช่น วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นต้น กระทรวงสาธารณสุขไทยร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) จัดทำแผนความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับเมียนมา ซึ่งสามารถผนวกความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในประเด็นนี้ในแผนได้ โดยต้องแจ้งฝ่ายเมียนมาและกระทรวงการต่างประเทศของไทยด้วย