เตือน “นมข้นหวาน” แทนนมแม่ไม่ได้ เสี่ยงขาดสารอาหาร อันตรายถึงชีวิต

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (18 ตุลาคม 2565) เกิดเหตุเศร้าสลดพบเด็กอายุประมาณ 3 เดือนเศษ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ผลชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ โดยผู้เป็นมารดา ได้ระบุว่าตนเองมีบุตรทั้งสิ้น 6 คน และมีสภาพครอบครัวที่ค่อนข้างลำบาก จึงไม่มีเงินซื้อนมผงให้ลูกกิน จึงเลือกใช้นมข้นหวาน ชงแทน แต่ด้วยลูกของตนตัวเล็กไม่แข็งแรง แต่ก็ไม่คิดว่า ลูกจะเสียชีวิตจากนมข้น เพราะลูกคนอื่น ๆ ตนก็เลี้ยงด้วยนมข้นเหมือนกันนั้น 

“โลชั่นบำรุงผิว” จำเป็นหรือไม่สำหรับเด็กทารกที่ผิวยังบอบบาง

"นมแม่" มหัศจรรย์แห่งภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติของ "ลูกน้อย"

ซึ่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือนควรได้กินนมแม่อย่างเดียวและหลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางกาย พัฒนาสมอง จอประสาทตา รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารกในแต่ละช่วงอายุ ช่วยให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมเรื่องสติปัญญา อารมณ์ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

อธิบดีกรมอนามัย เน้นย้ำ นมข้นหวานไม่เหมาะสำหรับการเป็นอาหารเด็ก เนื่องจากนมข้นหวานมีส่วนประกอบหลักแค่ไขมัน น้ำตาล โซเดียม  ซึ่งต่างจากนมแม่ และนมผงดัดแปลงสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นนมสำหรับเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะ จึงห้ามนำมาใช้เลี้ยงทารก หรือห้ามใช้เพื่อเสริมคุณค่าทางอาหารแทนนมแม่ หรือนมผงสำหรับทารก อาจทำให้ทารกและเด็กเล็ก เสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน พลังงาน และสารอาหาร ส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น เด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรกินนมแม่อย่างเดียว โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับการเริ่มอาหารตามวัย หากเด็กอายุเกิน 1 ปี สามารถกินนมกล่อง UHT หรือ พาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

แนะ 6 วิธีให้ลูกได้กิน "นมแม่" เมื่อต้องแยกกักตัวโควิด-19

การส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้อาหารตามวัยแก่ทารกและเด็กอย่างเหมาะสมนั้น 

• ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ไม่ต้องให้อาหารอื่นแม้แต่น้ำ
• เริ่มให้อาหารตามวัยที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน ตามวัยหลังอายุ 6 เดือน ควบคู่กับนมแม่
• เพิ่มจำนวนมื้ออาหารตามวัยเมื่ออายุลูกเพิ่มขึ้น จนครบ 3 มื้อ เมื่ออายุ 10-12 เดือน
• ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ และความหยาบของอาหารขึ้นตามอายุ 5) ให้อาหารรสธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปรุงแต่งรส
• ให้อาหารสะอาดและปลอดภัย
• ให้ดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน และน้ำอัดลม
• ฝึกวิธีดื่มกินให้สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยและ
• เล่นกับลูกสร้างความผูกพัน หมั่นติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการ 

ข้อมูลจาก : กรมอนามัย 

รัฐบาลแนะผู้ปกครองเตรียมพาเด็กเล็กรับวัคซีนไฟเซอร์ต้านโควิด ต.ค. นี้

ไขข้อสงสัยให้คุณพ่อคุณแม่ เด็กเล็กใช้ "สเปรย์ - ทายากันยุง"