รวมสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาโควิด แบบไหนรับเงินชดเชย-เคลมประกันได้
รวมสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาโควิด หลัง สธ.เตรียมเสนอ “UCEP COVID-19 Plus” เข้า ครม.สัปดาห์นี้ แบบไหนรับเงินชดเชย-เคลมประกันได้ มีเงื่อนไขและหลักฐานการรับเงินอะไรบ้าง เช็กได้ที่นี่
ที่ผ่านมา “โควิด-19” ถือเป็นโรคติดต่อที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน และได้จัดอยู่ใน “ยูเซ็ป” (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP) มาตั้งแต่ปี 2563
UCEP คือ สิทธิการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนกว่าจะพ้นวิกฤติ หรือสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่งโมง ทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาโควิด-19 ฟรีไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
8 อาการติด "โอมิครอน" สธ.ชี้ เกินครึ่งไม่แสดงอาการ
"เช็ก 5 อาการโอมิครอน" ที่แพทย์ตรวจพบในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด
กรมการแพทย์เปิด 3 ข้อแตกต่างการรักษาผู้ป่วยโควิดแบบ OPD และ HI
แต่หลังกระทรวงสาธารณสุขเตรียมปลดโรคโควิดออกจากยูเซ็ปแล้วให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตามสิทธิ และเตรียมเสนอ “ยูเซ็ปโควิด-19 พลัส” (UCEP COVID-19 Plus) หรือการดำเนินการเพื่อเตรียมรองรับผู้ป่วยโควิดสีเหลือง สีแดง ให้สามารถใช้สิทธิการรักษาทุกที่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า ตลอดจนมีการเพิ่มแนวทางการรักษาผู้ป่วยสีเขียวแบบผู้ป่วยนอก (OPD) หรือ “เจอ แจก จบ” ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565
ดังนั้นหากยกเลิกสิทธิการรักษา UCEP COVID-19 ผู้ป่วยบางรายจะต้องไปรักษาตามสิทธิของแต่ละบุคคล ส่วนจะยังรักษาฟรีหรือไม่ มีข้อมูลดังนี้
- สิทธิบัตรทอง
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า คนไทยทุกคนจะมีสิทธิการรักษาพื้นฐานเป็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ “บัตรทอง” ของ สปสช. รักษาได้ทุกที่ฟรีตามนโยบายยกระดับบัตรทอง สามารถเข้ารับบริการในระบบบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ เช่น สถานีอนามัย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต), ศูนย์สุขภาพชุมชน, ศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึงคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบส่งตัวมาเหมือนในอดีต
โอมิครอน BA.2 ครองไทยเกินครึ่ง “ แพร่เร็วกว่าเดิม 1.4 เท่า
เช็กอัตราค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 หลังกรมบัญชีกลางให้ปรับลด
- สิทธิประกันสังคม-สวัสดิการข้าราชการ
เมื่อเข้าทำงาน สิทธิของคนบางคนจาก “บัตรทอง” จะเปลี่ยนไปเป็นระบบ “ประกันสังคม” ของสำนักงานประกันสังคม หรือระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล “ข้าราชการ” ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งทั้ง 2 สิทธินี้รักษาฟรีเช่นเดียวกัน เพียงแต่ผู้มีสิทธิประกันสังคมจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลตามที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนผู้มีสวัสดิการข้าราชการจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลภาครัฐ
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินชดเชยการขาดรายได้ ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก แจ้งข่าว ประกันสังคม ระบุว่า ประกันสังคมยืนยันจ่ายชดเชยผู้ป่วยโควิดทุกคนทุกกรณี โดยผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33, 39 และ 40 ยื่นขอรับเงินชดเชยได้ตามเงื่อนไขนี้
- มาตรา 33 กรณีลาป่วย รับค่าจ้าง 30 วันแรกจากนายจ้าง หยุดรักษาตัวเกิน 30 วัน สามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้ จากประกันสังคมนับตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยโดยได้รับเงินทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้างจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้จะได้รับ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน เว้นแต่โรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วัน
- มาตรา 39 รับเงินทดแทนขาดรายได้ร้อยละ 50 โดย คิดจากฐานอัตราการนำส่งเงินสมทบ (4,800 บาท) ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วันเว้นแต่โรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วัน
- มาตรา 40 รับเงินทดแทนขาดรายได้ตามทางเลือก 1-2-3
โดยการพิจารณาการเบิกจ่ายเงินชดเชย สำหรับผู้ประกันตนทั้งในมาตรา 33 และมาตรา 39 จะพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน ใบรับรองแพทย์ และผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข ส่วนผู้ประกันตนในมาตรา 40 จะพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน ใบรับรองแพทย์ และผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนเดือนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข
สรุปได้ว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาโควิดยังฟรี ไม่ว่าจะยกเลิกสิทธิ UCEP COVID-19 หรือไม่ก็ตาม
- สิทธิประกันสุขภาพ
สำหรับบางคนที่ซื้อประกันสุขภาพหรือประกันโควิด คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สมาคมประกันชีวิต สมาคมประกันวินาศภัย เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อหารือแนวปฏิบัติในการจ่ายเงินชดเชย มีข้อสรุปเบื้องต้นว่า ผู้ป่วยในที่ได้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล กรณีรักษาในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel สามารถเคลมประกันได้ เพราะมีความจำเป็นทางการแพทย์และสอดคล้องกับเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่ง คปภ.ออกแนวปฏิบัติเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ว่าต้องเข้าเกณฑ์ ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
- เข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ตามเกณฑ์การนำส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลตามแนวทางการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) หรือแนวทางของ สธ. ได้แก่ มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง, หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่, ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 94%, โรคประจำตัวมีการเปลี่ยนแปลงหรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และสำหรับเด็ก มีอาการหายใจลำบาก ซึม ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง
- ไม่เข้าเกณฑ์ข้อแรก แต่แพทย์มีดุลพินิจว่ามีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในและได้รับการรักษาตัวในสถานพยาบาล
โดยบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายได้ให้กับผู้ป่วยโควิดกลุ่มดังกล่าวตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
แต่ในกรณีของระบบแยกรักษาตัวที่บ้าน/ในชุมชน (HI/CI) และ Hotel Isolation ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุป เพราะแม้สถานที่ทำการรักษาแบบดังกล่าวจะเป็นสถานพยาบาลตามประกาศของ สธ. แต่ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยโควิดแล้ว อย่างไรก็ตามที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าให้อนุโลมจ่ายในกรณีจำเป็นเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัย ซึ่ง คปภ.จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อไป