บอกลาโควิด19 ปีนี้ ? ไปต่อปี 2566 ? กับโลกวิถีใหม่ที่ไม่มีผลแพ้ชนะ
โควิด-19 ไวรัสที่เขย่าทุกมุมโลก ล้มหน้ากระดาษเศรษฐกิจสร้างความเสียหายนับไม่ถ้วน หลายคนเลิกตั้งคำถามว่าโควิดจะหายไปเมื่อไหร่ ? และหันมาถามกับตัวเองว่า “จะอยู่กับมันอย่างไร?” ในปี 2566 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของโควิด19 นี้
“ปีเก่าไป ปีใหม่มา” หลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะถูกรีเซตและเริ่มต้นใหม่ แต่ดูเหมือนว่า สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่กับเรา และไม่หายไปไหน จะเป็นเจ้า ไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 ที่ยังอยู่กับเรามาถึง 3 ปี และกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 4 หลังจากที่พบครั้งแรก เดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 โดยพบครั้งแรกในนครอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน และพบในไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน
'ซุปโอมิครอน'แตกแขนงโควิดย่อยกว่า 300 สายพันธุ์ เพื่อความอยู่รอดของโรค
อินเดีย หวั่นเจอโควิดสายพันธุ์ใหม่ สั่งคุมเข้มตรวจคนเดินทางเข้าประเทศ
จากนั้นได้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็วรุนแรง จนเขย่าทั้งโลกไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก คนเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมาก แบบที่น่าตกใจ หรือที่เราเรียกว่า “คลัสเตอร์โควิด” ทั้งสนามมวยลุมพินี /ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่มา ของหลากหลายมาตราการทั้งการออกกฎหมายเพื่อควบคุมสถานการณ์/มาตราการล็อกดาวส์ /Bubble and Seal/ นำคนป่วยเข้าระบบตามลำดับสีและกักตัว 14 วัน /การจัดหาวัคซีนที่เสมือนดาบและโล่เอาไว้สู้กับโควิดที่เป็นไปอย่างตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายก็ พัฒนาและปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวิถีใหม่ไปแล้วจริงๆ คือ นิวนอมอล (New Normal) ฉะนั้นในตอนนี้ เราแทบจะไม่เห็นคนที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยบนท้องถนน แม้กฎหมายจะไม่ระบุว่าเป็นความผิดแล้วก็ตาม
โควิดปีที่ 4 นี้ จะเป็นอย่างไร?
ถ้าหากจะบอกว่าให้โควิดจบสิ้นเลย คงเป็นไปได้ยาก เพราะมีการกลายพันธุ์อยู่เสมอแม้ความรุนแรงจะลดลง เพื่อเอาชนะมนุษย์และล่าสุดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักของโลก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโลกจะแพ้เช่นเดียวกับไทยเองที่ผ่านการปรับตัวมาหลายต่อหลายครั้งสุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่คู่กับมัน เพราะเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ได้มีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 ทุกจังหวัด / ลดชั้นโควิดจากโรคติดต่อร้ายแรงเหลือโรคติดต่อเฝ้าระวัง คืนอำนาจให้กระทรวงสาธารณสุข และปิดศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ ที่เป็นจุดฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กระจายจุดฉีดไปยังทั่วประเทศ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข ได้ประกาศความสำเร็จในการต่อสู้กับโควิดและแสดงความมั่นใจต่อชาวโลกว่า ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลาง Medical Hub และระบบ สาธารณสุขโลก พร้อมเดินหน้าเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19เข็มกระตุ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตามวงรอบเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่
ประกาศชนะโควิด! ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ ส่งสัญญาณเดินหน้าประเทศ
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด19 ของไทย ก็ลุ่มๆดอนๆ เดี๋ยวไปเดี๋ยวมาเป็นคลื่นเวฟตามฤดูกาล โดยเฉพาะปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ช่วง 3 เดือนหลังที่ผ่านมาที่ “ติดง่าย หายเร็ว ไม่รุนแรง” แต่อย่างไรผลของอาการยังขึ้นอยู่กับภูมิแต่ละคน ที่ต้องมีวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นอาวุธสำคัญ
อย่างไรก็ตามในปี 2566 ถือเป็นปีที่ทุกอย่างจะกลับมาคล้ายปกติ เพราะวิถีชีวิตเดิมจะกลับมาอย่างเต็มร้อย การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจะเดินหน้าต่อ เปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มกำลังสูบ ขณะที่จีนเองกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตราการโควิดในช่วงเดือน มกราคม 2566 สวนทางกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้จะมีการอนุณาตให้ชาวจีนเดินทางออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศหรือไม่จะถูกพิจารณาในระยะต่อไปก็สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายประเทศไม่น้อย
ถึงแม้จะยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ของ มนุษย์และโควิด19 แต่ ณ. ตอนนี้ สิ่งที่ทำได้ คือ ดูแลตัวเองเป็นสำคัญ และเชื่อว่า ทุกคนรู้ว่าควรทำอย่างไร ให้ปลอดภัย ทั้งเรื่องสวมใส่หน้ากากอนามัย พกสเปรย์แอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง หากไม่สบายมีอาการ หรือต้องการเดินทางข้ามจังหวัดให้ตรวจ ATK เพื่อเช็กให้ชัวร์ นั้นคงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดกันซ้ำหลายรอบเพราะคุ้นชินในโลกวิถีใหม่นี้แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน
เมื่อ 3 ปีก่อน โควิด 19 อาจจะเป็นเรื่องใหม่ที่ทั้งโลกเจอความโชคร้ายมาพร้อมกัน แต่ ณ. ตอนนี้ กลับเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา และ เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่า จะทำอย่างไรให้เราอยู่ร่วมกับโควิดได้ในปี 2566 ท่ามกลางการคาดหวังการทำงานของภาครัฐที่จะทำให้ปัญหาปากท้องดีขึ้น ไม่ย่ำติดอยู่กับที่ขณะที่เชื้อโรคยังกลายพันธุ์ต่อเนื่อง
โควิด-19 รอบสัปดาห์ ติดเชื้อเฉลี่ย วันละ 414 คน เสียชีวิตวันละ 12 คน
โควิดจีนระบาดหนัก หลังผ่อนคลายมาตรการ และหยุดแจ้งยอดติดเชื้อรายวัน
รัฐบาลติดตามโควิด-19 จีน หลัง ปชช.หวั่นนักท่องเที่ยวหลั่งไหล คุมโควิดยาก