โควิดวันนี้ เช็ก 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม.อันดับ 1 ทะลุ 3 พันราย
ศบค.รายงานยอดติดโควิด-19 รายใหม่ 23,945 ราย เสียชีวิต 70 ราย ด้าน นายกฯ แจงประชาชนเข้าใจ เข้าถึงสิทธิ UCEP Plus
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ 16 มี.ค.2565 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ รวม 23,945 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 23,897 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 48 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,027,207 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยกลับบ้าน 23,339 ราย หายป่วยสะสม 836,258 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 221,972 ราย เสียชีวิต 70 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด
1.กรุงเทพมหานคร 3,457 ราย
2.นครศรีธรรมราช 1,440 ราย
3.ชลบุรี 1,320 ราย
4.สมุทรปราการ 886 ราย
5.สมุทรสาคร 678 ราย
6.ฉะเชิงเทรา 617 ราย
7.ราชบุรี 554 ราย
8.พระนครศรีอยุธยา 548 ราย
9.สงขลา 500 ราย
10. ปทุมธานี 473 ราย
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันแรก ในการเปิดบริการการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หรือ UCEP Plus หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีผู้ป่วยโควิด-19 แบบ UCEP Plus โดยผู้ติดเชื้ออาการสีเหลืองและสีแดง สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทุกแห่งจนหายป่วย ไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการรุนแรงขึ้นจำเป็นต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นในเครือข่ายจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากผู้ป่วยหรือญาติประสงค์จะไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเครือข่าย จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนผู้ป่วยอาการสีเขียวจะให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีแดง สามารถส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นโดยใช้สิทธิ UCEP Plus ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับทุกส่วนราชการที่เกื่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชน รวมไปถึงหน่วยบริการสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าใจ และเข้าถึงสิทธิ UCEP Plus อย่างเป็นธรรม
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉ์นแห่งชาติ (สพฉ.)ได้จัดทำเกณฑ์การประเมินคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคโควิด 19 (UCEP Plus) ไว้ตามอาการต่าง ๆ โดยผู้ป่วยที่ตรวจ ATK หรือ RT-PCR มีผลเป็นบวก ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
1) ภาวะหัวใจหยุดเต้น มีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า
2) มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หรือหายใจเร็วมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่ หรือออกซิเจนในเลือดเมื่อแรกรับน้อยกว่า 94% หรือมีระดับออกซิเจนลดต่ำลงกว่าภาวะปกติ 3% เมื่อออกแรง หรือโรคประจำตัวเปลี่ยนแปลงรุนแรง หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์
3) มีอาการอื่นร่วมด้วย คือ เหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ภาวะอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือตามดุลยพินิจของผู้คัดแยก โดยการใช้สิทธิ สามารถโทรแจ้ง 1669 โรงพยาบาลจะประเมินอาการและรักษาเบื้องต้น และกรอกรายละเอียดอาการผ่านโปรแกรม PA ของ สพฉ. หากเข้าเกณฑ์ UCEP Plus จะสามารถใช้สิทธิได้ทันที ทั้งนี้ สพฉ.ได้เตรียมศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หมายเลข 02-872-1669 เพื่อให้คำปรึกษากรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาในการใช้สิทธิ
ฉีด 2 เข็มไม่พอ! ไขข้อสงสัยวัคซีนบูสเตอร์โดส จำเป็นแค่ไหน เลือกอย่างไรได้บ้าง?
สงกรานต์ 2565 ขึ้นทางด่วนฟรี 5 เส้นทาง ยาวถึง 3-7 วัน