สธ.พบผู้ป่วยฝีดาษลิง เพิ่ม 3 ราย เลี่ยงมีเพศสัมพันธ์คนแปลกหน้า
กรมควบคุมโรค เผย สถานการณ์ผู้ป่วยฝีดาษวานรในประเทศไทย ตั้งปีที่แล้ว รวมสะสม 18 ราย ล่าสุดพบเพิ่ม 3 รายเป็นชายทั้งหมด ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้นไม่พบการแพร่กระจายของเชื้อต่อในวงรอบอื่น
วันที่ 24 มี.ค. 2566 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึงสถานการณ์ฝีดาษลิง ตั้งแต่ช่วงก.ค.ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทย พบผู้ป่วยฝีดาษวานรยืนยัน รวมสะสม 18 ราย โดยอยู่ในระบบการรักษาล่าสุดที่สถาบันบำราศนราดูร 3 ราย เป็นชายทั้งหมด อายุเฉลี่ยในช่วง 27-40 ปี ซึ่งเป็นการทยอยเข้ารับการรักษาตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในจำนวน 3 รายนี้ 2 รายเป็นชายรู้จักกัน มีกิจกรรมใกล้ชิด
“มท.1” เตรียมหารือ ก.คลัง เยียวยาเหยื่อสารซีเซียม-137 ยันงบมีสำรองจ่าย
ลุงร้องทุกข์ ป่วยอัมพาตครึ่งซีก ทำบัตรคนจนไม่ได้
ทั้งหมดอาการไม่มาก อยู่ระหว่างการพักฟื้น และรอจนกว่าแผลจะตกสะเก็ด ไม่แพร่เชื้อเพื่อให้พ้นระยะการติดต่อ ซึ่งตามหลักในการรักษาโรค จะให้เฝ้าระวังอาการในสถานพยาบาลประมาณ 3 สัปดาห์
ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้น ยังไม่มีวงรอบในการแพร่กระจาย ไปยังผู้อื่น เนื่องจากลักษณะของโรคฝีดาษวานรการจะแพร่สู่กันได้นั้น จะเป็นในรูปแบบสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสตุ่มหนอง เน้นย้ำ ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ เนื่องจากโรคฝีดาษลิง การติดต่อกันจะมาจากการสัมผัสใกล้ชิด ระมัดระวังกันมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมโรค ระบุเพิ่มเติมว่า โรคฝีดาษลิง ยังคงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หากดูจากจำนวนผู้ป่วยยืนยันที่พบในประเทศไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว เฉลี่ยพบเดือนละ 1-3 ราย หรือบางเดือนก็ไม่พบผู้ป่วยเลย อย่างไรก็ตามหลีกเลี่ยงสัมผัสผู้ที่มีตุ่มหนองตามร่างกาย ส่วนประชาชนทั่วไป ไม่ต้องกังวลถึงโรคฝีดาษวานร หากไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง และมีการป้องกันตนเองทางด้านสุขอนามัย และไม่ได้ไปสัมผัสตุ่มหนอง โอกาสที่จะเป็นโรคดังกล่าว ถือว่าน้อยมาก.
ส่วนการจัดกิจกรรมความหลากหลายทางเพศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ฝากเน้นย้ำ เลี่ยง การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หากมีอาการป่วยหรือมีตุ่มหนองขึ้นตามร่างกายไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรม