ส่องแนวทางฉีด "วัคซีนไบวาเลนต์" จำเป็นไหม ต้องรับกี่เข็ม
FDA และ CDC หน่วยงานด้านสาธารณสุขสหรัฐ เผยแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดไบวาเลนต์ ไขข้อสงสัยจำเป็นไหม แล้วควรรับกี่เข็ม
สามปีของการระบาดที่ผ่านมา โควิด-19 สอนให้เรารู้ว่าโรคอุบัติใหม่นี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงในแต่ละบุคคลเท่ากัน ในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังมีร่างกายแข็งแรง อาจมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่กลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ส่วนมากเมื่อติดเชื้อแล้ว หากไม่ได้รับวัคซีน อาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบได้
"วัคซีน" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยคุมเกมการระบาดและลดอาการป่วยรุนแรง
เช็ก 22 จุดฉีดวัคซีน หน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ ทั่วประเทศฟรี!
โควิด-19 รอบสัปดาห์ ติดเชื้อทะลุกว่า 1 พันคนป่วยหนักขยับสูง
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีนรุ่น 2 ขึ้นมาแล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรค เรียกว่า "วัคซีนไบวาเลนต์" (Bivalent)
วัคซีนชนิดนี้ เป็นวัคซีนที่สามารถกำหนดเป้าหมายต่อต้านเชื้อได้ทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอน ที่ระบาดเป็นหลักในปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทย ล่าสุดได้มีการนำเข้าวัคซีนชนิดดังกล่าวเข้ามาแล้วกว่า 1 ล้านโดส แต่เราควรฉีดวัคซีนนี้หรือไม่นั้น และถ้าต้องฉีดจะต้องรับกี่เข็ม วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาจาก เว็บไซต์ Vox มาให้แล้วดังนี้
คนสุขภาพดีอายุ 6-64 ปี ฉีด 1 เข็มเพียงพอ
องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ให้คำแนะนำว่ากลุ่มที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว และมีอายุระหว่าง 6-64 ปี ควรเข้ารับวัคซีนไบวาเลนต์ ซึ่ง 1 โดสถือว่าเพียงพอแล้ว
ไม่ใช่ว่าการฉีดวัคซีนซ้ำ จะไม่ช่วยลดอาการป่วยหนักและรุนแรง ! แต่เพราะความเสี่ยงของการรักษาตัวในโรงพยาบาลของกลุ่มนี้ต่ำมากอยู่แล้ว การฉีดวัคซีนเข้าไปกระตุ้นเพิ่ม สุดท้ายแล้วก็มีแต่หายวับไป ปล่อยให้ภูมิคุ้มกันของวัคซีนลดลงตามธรรมชาติเท่านั้น
การฉีดวัคซีนไบวาเลนต์ซ้ำจึงถือว่าให้ประโยชน์น้อยที่สุดในกลุ่มนี้
ควรฉีดกระตุ้น ในคนไม่เคยรับวัคซีน-ใช้วัคซีนรุ่นเดิม
สำหรับคนที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เลยสักเข็ม หรือได้รับเพียงวัคซีนรุ่นดั้งเดิม ก่อนเดือนสิงหาคม 2022 ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) แนะนำด้วยว่า กลุ่มนี้ควรเข้ารับวัคซีนไบวาเลนต์ทันที ซึ่งวัคซีนชนิดนี้สามารถฉีดได้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป
แม้ว่าพวกเขาอาจมีภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 อยู่บ้าง ไม่ว่าจะทั้งเคยติดเชื้อมาก่อน หรือเคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาก่อนแล้ว โดยทั่วไปจะป้องกันความรุนแรงของโรคได้น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับเข็มกระตุ้นเพิ่ม
มากกว่านั้น วัคซีนไบวาเลนต์ไม่เพียงแต่ป้องกันไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมเท่านั้น ยังสามารถป้องกันสายพันธุ์โอมิครอน อย่าง BA.4 หรือ BA.5 ได้ด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าขณะนี้สายพันธุ์เหล่านี้อาจพบจำนวนการแพร่ระบาดได้น้อยมากแล้ว เพราะสู้สายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมไม่ได้ แต่สายพันธุ์ใหม่ๆ เหล่านี้ยังคงมีพันธุกรรมใกล้เคียงกับ BA.4 และ BA.5 มากกว่า เท่ากับว่าการป้องกันความรุนแรงย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง
ดังนั้นการมีวัคซีนไบวาเลนต์เข้ามาทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรารู้จักสายพันธุ์โควิด-19 ทั้งแบบดั้งเดิมและสายพันธุ์ใหม่ ๆ จึงดีกว่า
ผู้สูงอายุควรรับวัคซีนไบวาเลนต์ 2 เข็ม
ถ้ามีข่าวว่าเปิดให้รับวัคซีนไบวาเลนต์ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นสามารถไปฉีดได้เลย! เพราะองค์การอาหารและยาสหรัฐ ยังพบอยู่ว่า คนกลุ่มนี้ยังคงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอัตราที่สูงกว่าผู้มีอายุน้อย
มีผลการวิจัยออกมาด้วยว่า ผู้สูงอายุที่เคยได้รับวัคซีนไบวาเลนต์แล้ว จะเสียชีวิตจากโรคนี้ในอัตราที่ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมาก ส่วนคนกลุ่มนี้ถ้าจะเข้ารับวัคซีนไบวาเลนต์ซ้ำ ขอให้เว้นระยะห่างจากเข็มล่าสุดอย่างน้อย 4 เดือน
คนมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ฉีดซ้ำได้ทุกๆ 2 เดือน
ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรง ได้แก่ ผู้ที่กำลังรักษาโรคมะเร็งหรือได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยเอชไอวีขั้นสูง และผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดบางอย่าง รวมถึงผู้ที่ได้รับสารกดภูมิคุ้มกันหลายชนิด
ถ้าคุณมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในระดับปานกลางถึงรุนแรงและมีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป คุณสามารถรับวัคซีนไบวาเลนต์ได้เลยในตอนนี้ แม้ว่าคุณจะได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม แต่สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ยังไม่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนไบวาเลนต์ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่มากเพียงพอว่าวัคซีนชนิดนี้เหมาะกับเด็กกลุ่มนี้
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่รับวัคซีนไบวาเลนต์ไปแล้ว 1 โดส ฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันกระตุ้นซ้ำเข้าไปอีกด้วย โดยรอให้ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 2 เดือน และในกลุ่มผู้รักษาโรคมะเร็ง ผู้ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ยังสามารถเข้ารับวัคซีนซ้ำต่อไปได้อีก ทุกๆ 2 เดือน ซึ่งแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคน
เด็กเล็กฉีดวัคซีนไบวาเลนต์ได้
ผู้ผลิตที่แตกต่างกัน กำหนดสูตรการฉีดวัคซีนและเกณฑ์อายุที่แตกต่างกัน สำหรับวัคซีนไบวาเลนต์ของเด็กเล็ก ถ้าเป็นของโมเดอร์นา จะกำหนดให้ฉีด 2 โดส ในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 17 ปี ส่วนของไฟเซอร์ จะให้ฉีด 3 โดส ในเด็ก 6 เดือนถึง 4 ปี
ตามหลักเกณฑ์ใหม่ เด็กที่ยังไม่เคยรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ใดเลย สามารถรับวัคซีนไบวาเลนต์เต็มโดสได้
ขณะที่เด็กที่้เคยรับวัคซีนรุ่นดั้งเดิมมาแล้ว สามารถรับวัคซีนไบวาเลนต์อย่างน้อยหนึ่งโดส โดยจำนวนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของผู้ผลิต ทั้งนี้ผู้ปกครองควรสอบถามกุมารแพทย์ก่อน
สรุปได้ว่าในตอนนี้เราทุกคนควรได้รับวัคซีนไบวาเลนต์อย่างน้อย 1 โดส และในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง อย่างผู้มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรได้รับการฉีดวัคซีนไบวาเลนต์ 2 โดส ส่วนในหญิงตั้งครรภ์นั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องสามารถรับวัคซีนไบวาเลนต์ได้ทุกๆ 2 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Vox
กทม.เผยหลังเทศกาลสงกรานต์ พบผู้ป่วยโควิดพุ่ง 700 รายต่อวัน
WHO ยกระดับ “XBB.1.16” เป็นโควิด-19 สายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ (VOI)