รักษามะเร็งตับ ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคนิค TACE และ ความร้อนฆ่าเซลล์
มะเร็งตับ นับเป็นมะเร็งที่ทำให้ผู้ชายเสียชีวิตมากที่สุดซึ่งปัจจุบันมีเทคนิคการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดด้วยการใช้ความร้อนฆ่าเซลล์มะเร็งที่ตับและส่งเคมีบำบัดผ่านหลอดเลือดแดงเข้าสู่ตับ (TACE)
มะเร็งตับ หนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของโรคก็เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก โดยมะเร็งตับมี 2 ชนิด คือ มะเร็งตับที่ต้นกำเนิดจากเซลล์ตับเอง และมะเร็งตับที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น ๆ ในที่นี้จะกล่าวถึงการรักษามะเร็งตับที่ต้นกำเนิดจากเซลล์ตับเองเท่านั้น
ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกวิธีการรักษา
แพทย์จะพิจารณาเลือกแนวทางรักษาจากระยะความรุนแรง ระยะของโรค ขนาด และจำนวนของก้อนมะเร็ง ควบคู่กับสภาพร่างกายโดยรวมของคนไข้เป็นสำคัญ ซึ่งมีทั้งการผ่าตัดรักษา การใช้ความร้อนฆ่าเซลล์มะเร็งที่ตับ
5 ระยะมะเร็งตับ ผู้ชายเสี่ยงกว่าผู้หญิง 2-3 เท่า อาจเสียชีวิตใน 6 เดือน
เคล็ดลับดูแลและฟื้นฟูตับ ห่างไกลมะเร็งตับ-ตับอักเสบ
การให้เคมีบำบัดผ่านหลอดเลือดแดงเข้าสู่ตับ (TACE) และการรักษาแบบประคับประคองด้วยการทานยา วิธีการรักษามะเร็งตับโดยใช้ความร้อนฆ่าเซลล์มะเร็งที่ตับโดยไม่ต้องผ่าตัด และการรักษามะเร็งตับด้วยเคมีบำบัดผ่านหลอดเลือดแดง (Trans Arterial Chemo Embolization: TACE) ด้วยกัน
การใช้ความร้อนฆ่าเซลล์มะเร็งตับดีอย่างไร
การรักษาโดยใช้ความร้อนเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งตับจะทำในกรณีที่เป็นมะเร็งตับในระยะเริ่มแรก และก้อนมะเร็งมีขนาดเล็ก รวมถึงมีน้อยกว่า 3 ก้อน วิธีการรักษาแพทย์จะสอดเข็มขนาดเล็กผ่านทางหน้าท้องจำนวน 1 รู เข้าไปยังตับ เพื่อให้ปลายเข็มไปยังตำแหน่งของก้อนมะเร็งและใช้การนำทางด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ หลังจากนั้นจึงปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Ablation: RF) หรือคลื่นไมโครเวฟ (Microwave Ablation) เพื่อสร้างความร้อนที่ปลายเข็มและทำลายเซลล์มะเร็งให้ได้เป้าหมายตามที่กำหนด เพื่อไม่ให้มีเซลล์มะเร็งหลงเหลือ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะมีผลกระทบกับเนื้อตับส่วนที่ดีน้อยมาก ได้ผลการรักษาเทียบเท่าการผ่าตัดการรักษา เพียงให้ยาระงับปวดทางเส้นเลือดระหว่างการใช้ความร้อนเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งตับ หลังการรักษาจึงฟื้นตัวเร็ว นอนพักฟื้นเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้
การรักษามะเร็งตับด้วยเคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือดแดง (TACE)
โดยปกติเซลล์ตับจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยเส้นเลือดดำจากระบบทางเดินอาหาร แต่ก้อนมะเร็งที่ตับนั้นต่างออกไป เพราะจะมีการดึงเส้นเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงก้อนของมะเร็งให้เจริญเติบโต จึงทำให้เกิดแนวคิดการรักษาด้วย TACE ขึ้น เพื่อส่งผ่านเคมีบำบัดเข้าไปยังก้อนมะเร็งตับโดยตรง แทนการให้เคมีบำบัดแบบปกติ
การรักษาด้วย TACE จะทำในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ Cath Lab เพียงฉีดยาชาที่ขาหนีบ ก่อนทำการสวนหลอดเลือดเข้าทางขาหนีบ โดยสายสวนหลอดเลือดขนาดเล็ก จนกระทั้งปลายสายสวนหลอดเลือดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม คือ เส้นที่ไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็งตับโดยตรง หลังจากนั้นจึงให้เคมีบำบัด และอุดหลอดเลือดด้วยวัสดุทางการแพทย์ เพื่อให้เคมีบำบัดค้างอยู่ในก้อนมะเร็งให้ได้นานขึ้น และทำลายเซลล์มะเร็งตับได้มากที่สุด โดยส่งผลข้างเคียงต่อเซลล์ตับปกติที่อยู่เคียงข้างเพียงเล็กน้อย
อาการจากตับแข็งสู่ตับวาย อะไรเป็นปัจจัยกระตุ้น รักษาได้หรือไม่?
ข้อบ่งชี้ใดบ้างที่สามารถรักษาได้ด้วย TACE
- คนไข้เป็นมะเร็งตับอยู่ในระยะกลาง และสภาพร่างกายโดยรวม อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำได้
- ก้อนมะเร็งยังไม่ลุกลามเข้าไปยังเส้นเลือดดำที่หล่อเลี้ยงตับ
- ก้อนมะเร็งมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป
วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังการรักษา
- ก่อนรักษาต้องงดน้ำและอาหาร 6 ชม. และคนไข้จะได้รับตรวจเลือดและเอ็กซเรย์อย่างละเอียด
- หลังทำการรักษาแพทย์จะดึงสายสวนออก และทำการห้ามเลือดบริเวณขาหนีบ ผู้ป่วยจึงต้องนอนราบบนเตียง และงอขาหนีบภายใน 6-8 ชม.แรก หลังการรักษา
- คนไข้ต้องนอนพักเพื่อดูอาการอย่างน้อย 1 วันหลังการรักษา
- เข้ารับการตรวจประเมินผลการรักษาภายใน 4 สัปดาห์
- กรณีก้อนมีขนาดใหญ่ หรือหลายตำแหน่ง อาจต้องรักษามากกว่า 1 ครั้ง คนไข้ควรมาทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ขอบคุณข้อมูลจาก : รพ.พญาไท
ภาพจาก : shutterstock
อาการคันแบบไหน ? สัญญาณโรคตับ-ไต เรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์รีบพบแพทย์
“โรคตับ” สัญญาณและสาเหตุ อ่อนเพลียหนัก- คันตามตัว รีบพบแพทย์