ประวัติหมอกฤตไท เพจสู้ดิวะ อ. แพทย์หนุ่มมากความสามารถ ต่อสู้มะเร็งปอด
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก หมอกฤตไท เพจสู้ดิวะ ผ่านเรื่องราวที่ชีวิตพลิกพลันป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายไม่รู้ตัว ชวนรู้จักประวัติและไลฟ์สไตล์คุณหมอให้มากขึ้นผ่านบทความ
นพ. กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กเพจ "สู้ดิวะ" แบ่งปันเรื่องราวป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
รู้จักหมอกฤตไท ผู้สร้างแรงบันดาลใจ
ปัจจุบันคุณหมอกฤตไท อายุ 29 ปี เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ชีวิตวัยเด็กที่มีความสุขอารมณ์ดี
ประวัติด้านการศึกษา
- ตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา คุณหมอศึกษาอยู่ในรั้วโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผม OSK 131
หมอกฤตไท "เพจสู้ดิวะ" แจ้งข่าวเศร้า ผมคงอยู่ได้อีกไม่นาน
คุณพ่อหมอกฤตไท เพจสู้ดิวะ แจ้งข่าวเศร้าลูกชายเสียชีวิตแล้ว อวยพรเดินทางปลอดภัย
- หลังจากจบสวนกุหลาบ คุณหมอได้สอบติด คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 56 และจบใน 6 ปีที่กำหนด
- จากนั้นคุณหมอ ได้ตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine)ต่ออีก 3 ปี ซึ่งเป็นแพทย์ใช้ทุนร่วมกับเรียนต่อเฉพาะทางที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
- เมื่อเรียนจบแล้วคุณหมอกลับไม่ได้ปฏิบัติงานในฐานะหมอแฟมเมด แต่กลับย้ายมาทำงานสายระบาดวิทยาคลินิก ระหว่างที่เรียนเฉพาะทาง คุณหมอได้ศึกษา สาขาเฉพาะทางอีกอันหนึ่งคือ ระบาดวิทยาคลินิก (Clinical Epidemiology and Clinical Statistic)
- จากนั้นคุณหมอยังศึกษาปริญญาโท วิทยาการข้อมูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Data Science) อีกใบพร้อมกันด้วย
ภายหลังเรียนจบแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัว และปริญญาโทวิทยาการข้อมูลได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไลฟ์สไตล์หมอกฤตไท
คุณหมอระบุไว้ว่าตนเองนั้นเป็นคนออกกำลังกายมาก เนื่องจากเป็นนักกีฬาด้วย เข้ายิมให้ความสำคัญกับอาหารและการนอนหลับ ชอบอ่านหนังสือ ฟัง podcast ลงทุน ตามสไตล์วัยรุ่น productive ไม่สูบบุหรี่ ทำให้มีสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรงมาโดยตลอดวางแผนที่จะซื้อบ้านและแต่งงานกับคนรัก
ก่อนที่จะทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งนับเป็นจุดพลิกพลันของชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์และมีความสุข จากนั้นคุณหมอได้เข้าสู่กระบวนการการรักษา เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ซึ่งมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ในระยะเวลานี้คุณหมอได้ทำตามที่ตั้งใจเอาไว้ โดยการแต่งงานกับแฟนสาวและเขียนหนังสือ “สู้ดิวะ” ขึ้นมา มียอดสั่งจองเข้ามาถล่มทลาย จนหนังสือที่จัดเตรียมไว้ไม่พอขาย ระหว่างนั้นคุณหมอได้เป็นวิทยากรให้กับหลายมหาวิทยาลัยนับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมหลากหลายช่องทาง
หลังจากนั้นได้แจ้งข่าวไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ในวันที่ 5 พ.ย.66 นพ.กฤตไท มีการอัปเดตว่าหมอหนุ่ม อาการไม่ค่อยดี คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วไม่เกินกล จนในวันนี้ 5 ธ.ค. 66 คุณพ่อของคุณหมอกฤตไท ได้โพสต์อาลัยลูกชายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย” พร้อมรูปหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ระบุเวลา 10.59 น. ของวันนี้(5ธ.ค66)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เพจสู้ดิวะ