โควิด-19 รอบสัปดาห์ ติดเชื้อลด-ป่วยหนักเสียชีวิตเพิ่ม
สถานการณ์โควิด-19 ไทยพบยอดป่วยหนักเสียชีวิตเพิ่ม ศูนย์จีโนมเตือนพบการกลายพันธุ์ โอมิครอน JN.1 ยังไม่ชี้ชัดความรุนแรง
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โควิด-19 รายสัปดาห์ ระบุว่า ข้อมูลของสัปดาห์ที่ 1 ปี2567 ระหว่างวันที่ 7-13 ม.ค.67 มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล 625 ราย เฉลี่ยรายวัน 89 รายต่อวัน ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปี 2567 อยู่ที่ 625 ราย ขณะที่ผู้ป่วยปอดอักเสบอยู่ที่ 177 ราย และ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 125 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต สัปดาห์นี้มีรายงานจำนวน 7 ราย เฉลี่ยวันละ 1 ราย เสียชีวิตสะสม 2567 อยู่ที่ 7 ราย ซึ่งถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่จำนวนผู้เสียชีวิต ปอดอักเสบและป่วยหนักกลับสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว
สธ.เผย 3 โรคระบาด-โรคเฉพาะกลุ่ม ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2567
หมอมนูญเผยข้อมูลระบาดวิทยาเดือนธ.ค. 66 พบโควิด-ไข้หวัดใหญ่สูงต่อเนื่อง

สำหรับจำนวนผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังไม่พบการรายงานว่ามีผู้เข้ารับวัคซีนเพิ่มเติม โดยในปัจจุบันฉีดวัคซีนสะสม 144,951,341 โดส แบ่งเป็น วัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,233,919 โดส คิดเป็น 82.28% เข็มที่ 2 จำนวน 53,730,348 โดส คิดเป็น 77.25% และตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไป จำนวน 33,987,074 โดส
ด้านศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ได้ โพสต์เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เตือนให้เตรียมพร้อมเผชิญกับโอมิครอน JN.1 ที่มีการกลายพันธุ์บริเวณหนามเพิ่มเติมจาก 1 ตำแหน่งกลายเป็น 2 ตำแหน่งในรูปแบบ “SLip (L455S+F456L)”
โดยระบุต่อว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจากข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมโควิด-19 ทั้งจีโนมที่แชร์บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลก จีเสส (GISAID) โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและเครือข่ายสถาบันการแพทย์ต่างๆพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์ EG.5.1* ประมาณ 244 ราย และ JN* ประมาณ 15 ราย คาดว่า JN* จะระบาดเข้ามาแทนที่ EG.5.1* ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของไทยในขณะนี้
โอมิครอนในสายของ EG.5.1* มีการกลายพันธุ์บริเวณหนามสองตำแหน่งติดกันคือ “L455F” และ “F456L” มักเรียกการกลายพันธุ์แบบนี้ว่า "FLip" ส่งผลต่อความสามารถของไวรัสในการจับกับตัวรับบนผิวเซลล์ได้ดีขึ้นพร้อมกับหลบเลี่ยงการเข้าจับและทำลายจากแอนติบอดีที่ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จากการรับการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อตามธรรมชาติ
อนึ่งการกลายพันธุ์บริเวณหนามของ L455F หมายถึงมีการแทนที่กรดอะมิโนลิวซีน (L) ด้วยฟีนิลอะลานีน (F) ที่ตำแหน่ง 455 ในขณะที่การกลายพันธุ์ของ F456L เกี่ยวข้องกับการแทนที่ของฟีนิลอะลานีน (F) ด้วยลิวซีน (L) ที่ตำแหน่ง 456
โต้ข่าวบิดเบือน! โควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาดหนัก ยันผู้ติดเชื้อยังเป็นภาพรวม

โอมิครอนในสายของ JN* เดิมมีการกลายพันธุ์บริเวณหนาม “เพียงตำแหน่งเดียวคือ L455S” แต่ก็ส่งผลให้มีการระบาดไปทั่วโลกและเข้ามาแทนที่ EG.5.1 ซึ่งเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของ XBB ในสหรัฐอเมริกา JN.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลัก 61.6% ของสายพันธุ์ทั้งหมดที่ระบาด (6 ม.ค. พ.ศ. 2567) จากนั้นในเดือนมกราคม 2567 เช่นเดียวกันพบ JN* (JN.1, JN.1.1, JN.1.1.1) มีการกลายพันธุ์เพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่งรวมเป็นสองตำแหน่งคือ L455S และ F456L พบผู้ติดเชื้อรายแรกในฝรั่งเศส ขณะนี้พบแล้วทั่วโลกจำนวน 41 ราย เรียกการกลายพันธุ์แบบนี้ว่า "SLip" ยังไม่แน่ชัดว่าสายพันธุ์ JN* ที่พบการกลายพันธุ์แบบ SLip mutation จะส่งผลให้มีการระบาดที่รวดเร็วและเจ็บป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้นไปจาก JN.1 สายพันธุ์เดิมที่ส่วนหนามมีการกลายพันธุ์เพียงตำแหน่งเดียว (L455S) หรือไม่
ในประเทศไทยยังไม่พบโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 ที่มีการกลายพันธุ์แบบ SLip
ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา รพ. รามาธิบดี กำลังเฝ้าติดตามสายพันธุ์ JN* ที่พบการกลายพันธุ์แบบ SLip mutation ในบรรดาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย
หมายเหตุ การกลายพันธุ์แบบ "SLip" คล้ายกับ "FLip" แต่เกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของซีรีน (S) แทนที่จะเป็นฟีนิลอะลานีน (F) บริเวณส่วนหนามที่ตำแหน่ง 455 ส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ในรูปแบบ L455S และ F456L
โควิด-19 รอบสัปดาห์หลังปีใหม่ ติดเชื้อเพิ่ม-สหรัฐฯเตือนอาจเกิดการระบาดระลอกใหม่