เคสแรกของโลก! ชายเม็กซิกันเสียชีวิตจากไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์รายงานว่า พบชายในเม็กซิโกเสียชีวิตหลังติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 เป็นรายแรกของโรค ซึ่งผู้เสียชีวิตมีภาวะแทรกซ้อนด้านสุขภาพอยู่แล้ว พร้อมเตือนว่า ความเสี่ยงต่อสังคมในวงกว้างจากไวรัสชนิดนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ

WHO ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 59 ปีในกรุงเม็กซิโกซิตี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ หายใจลำบาก ท้องเสีย และคลื่นไส้

ญาติของชายรายนี้กล่าวว่า เขาป่วยและต้องนอนอยู่เฉย ๆ บนเตียงมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วด้วยโรคอื่น ได้แก่ ไตวายเรื้อรัง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ก่อนที่จะเริ่มมีอาการจากไข้หวัดนก

เจ้าหน้าที่ได้นำเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบ และหลายสัปดาห์ต่อมา จึงทราบว่าเป็นไข้หวัดนก H5N2 ทำให้ WHO กล่าวว่า “นี่เป็นกรณีการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N2 แล้วเสียชีวิตในมนุษย์รายแรกที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการ”

แอนดรูว์ เปคอส ผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดใหญ่จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ กล่าวว่า สภาพสุขภาพก่อนหน้าของชายคนนี้ทำให้เขา “เสี่ยงต่อโรคไข้หวัดนกที่รุนแรงมากขึ้น”

WHO ระบุว่า ไม่ทราบแหล่งที่มาของการสัมผัสกับไวรัส แม้ว่าจะมีรายงานกรณีการติดเชื้อ H5N2 ในสัตว์ปีกในเม็กซิโกก็ตาม ซึ่งรวมถึงฟาร์มไก่ใกล้กับบ้านที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุความเชื่อมโยงได้ว่าเขาไปติดเชื้อมาจากที่ไหน

WHO ระบุว่า ไม่พบผู้ป่วยติด H5N2 เพิ่มเติมในขณะนี้ แม้จะตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตที่บ้านและในโรงพยาบาลแล้วก็ตาม “จากข้อมูลที่มีอยู่ WHO ประเมินความเสี่ยงในปัจจุบันต่อประชากรทั่วไปที่เกิดจากไวรัสนี้ว่าอยู่ในระดับต่ำ”

 

เรียบเรียงจาก Al Jazeera