BDMS ชูเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์รักษาโรคกระดูกในผู้สูงอายุ
การจัดงานประชุมวิชาการร่วม BDMS ประจำปี 2567 วันที่ 2 มีบุคลากรทางการแพทย์ทั้งระดับประเทศและนานาชาติ ให้ความสนใจร่วมงานจำนวนมาก โดยทีมแพทย์เครือ BDMS ได้แชร์ประสบการณ์การรักษาโรคกระดูกในผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS จัดงานประชุมวิชาการร่วม ประจำปี 2567 หรือ BDMS ACADEMIC ANNUAL MEETING 2024 ภายใต้แนวคิด A ROAD TO LIFELONG WELLBEING : EP.2 UNLOCK THE HEALTHY LONGEVITY ระหว่างวันที่ 18 - 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ BDMS Connect Center
โดยบรรยากาศการจัดงานในวันที่ 2 นายแพทย์สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการใหญ่ ศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ ในเครือ BDMS กล่าวว่า การประชุมวิชาการร่วมครั้งนี้ ในส่วนออร์โธปิดิกส์ที่ดูแลกระดูกและข้อ
ได้เลือกหัวข้อ “ผู้สูงอายุ” มาบรรยาย เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญของการเข้าสู่สังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปกว่า 10 ล้านคน เมื่อมีอายุมากขึ้นทำให้มีหลายโรคตามมา โดยเฉพาะโรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่ความหนาแน่นและมวลกระดูกลดน้อยลง จนทำให้กระดูกเสื่อม เปราะบาง ผิดรูป และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย ดังนั้นการให้คำวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการรักษาได้อย่างรวดเร็วด้วยการผ่าตัดถือเป็นสิ่งสำคัญ
ทั้งนี้ BDMS มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีศูนย์การแพทย์ที่มีเครื่องมือครบถ้วน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกระจายอยู่ทุกโรงพยาบาลในเครือ การรักษาด้วยการผ่าตัด จึงมีแผลที่เล็กมาก ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีที่สุด
นพ.สุทร ระบุว่า จะให้การรักษาตามแนวทางของการรักษาสมัยใหม่ มีทีมแพทย์ในสหสาขาวิชาทุกสาขาเลยที่เข้ามาดูคนไข้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นคนไข้ 1 คน อาจจะมีแพทย์ประมาณ 5-8 คน แต่ทุกคนทำงานเป็นทีมเดียวกัน ทุกคนเป็นเจ้าของคนไข้ร่วมกัน ไม่ใช่คนหนึ่งคนใด อันนี้คือแนวคิดในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุสมัยใหม่ ซึ่งไม่เหมือนแต่เดิมก็คือมีหมอมาดูต่างคนต่างดูแต่ก็ไม่เคยคุยกันเลย ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผลที่ดีเท่าที่ควร
ด้านนายแพทย์วัชระ พิภพมงคล ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวด้วยว่า ภาพรวมการบรรยายเน้นให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมได้เรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงวัยในอนาคตที่อาจประสบปัญหากระดูกหัก ซึ่งการผ่าตัดได้เร็ว และการเตรียมความพร้อมที่ดี ทำให้คนไข้มีอัตราการฟื้นตัวดีขึ้น คาดหวังให้แต่ละโรงพยาบาลใช้โปรแกรมการทำงานร่วมกันในหลาย ๆ สหสาขาวิชาชีพ เพื่อรักษาคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นพ.วัชระ ระบุว่า เราคาดหวังว่า co-management system หรือการทำงานแบบสหสาขา สำหรับคนที่สูงอายุกระดูกหักแบบเป็นระบบ เอาไปใช้ได้ทุก ๆ โรงพยาบาลทั่วประเทศ ถ้าเราเอาไปใช้ได้จริง ผมคิดว่า คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะได้นำเอาไปใช้ เรายินดีในฐานะที่เราก็ทำเรื่องนี้มานานพอสมควร ที่จะช่วยแชร์ประสบการณ์หรือว่าเข้ามาซักถาม หรือว่ามาเรียนรู้กับเราได้
ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษให้ความรู้เรื่องกระดูกพรุน โดยนายแพทย์ทวี ทรงพัฒนาศิลป์ ศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล พูดถึงโรคกระดูกพรุน มุมมองระดับโลก และการอัปเดตการรักษาว่า โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับกระดูกทั่วร่างกาย จากสถิติทั้งผู้ชายและผู้หญิงเป็นโรคกระดูกพรุนประมาณ 500 ล้านคนทั่วโลก พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดย 1 ใน 3 ของผู้หญิง และ 1 ใน 5 ของผู้ชาย ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปเป็นโรคนี้ ที่ผ่านมา BDMS ได้ทำการวิจัยและหาสาเหตุของโรคกระดูกพรุนอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.คริสเตียน คามเมอแลนเดอร์ จาก The AUVA Accident Hospital ได้บรรยายพิเศษว่าจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ปัญหาโรคกระดูกพรุนรุนแรงขึ้น แนวทางการป้องกัน ควรตรวจคัดกรองผู้ที่ยังไม่มีภาวะกระดูกหัก เพื่อป้องกันและลดโอกาสเกิดกระดูกหักในอนาคต และแนวทางการรักษาควรเป็นแบบสหสาขาวิชาชีพ โดยผสมผสานแพทย์เฉพาะทาง การดูแลขั้นปฐมภูมิ และโรงพยาบาลเข้าด้วยกัน ส่วนแนวทางการพัฒนาระบบรักษาในโรงพยาบาล มีการนำระบบการจัดการใหม่ เช่น โปรแกรมเร่งรัดสำหรับผู้ป่วยกระดูกหัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและลดภาวะแทรกซ้อน
ปิดท้ายที่นายแพทย์พนธกร พานิชกุล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่า โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล บรรยายพิเศษถึงแนวทางการจัดการปัญหาการหักของกระดูกต้นขาหลังการผ่าตัดข้อต่อเทียมด้วยเทคนิคใหม่ คือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ โดยโรงพยาบาลใช้เทคนิคนี้เป็นที่แรก ๆ ของไทย เมื่อเทียบกับเทคนิคเดิม ทำให้หลังผ่าตัดคนไข้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ระหว่างผ่าตัดคนไข้ยังเจ็บน้อยลง สามารถเคลื่อนไหวข้อสะโพกเทียมได้อย่างคล่องตัว และโอกาสข้อสะโพกเทียมหลุดมีน้อยมาก
สำหรับหัวข้อการเสวนาในการประชุมวิชาการร่วมครั้งนี้ จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมรับฟัง ได้รับประสบการณ์และวิธีการรักษาโรคกระดูกในผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง สามารถนำไปรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น