BDMS โชว์นวัตกรรมเด่นทางสาธารณสุข ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

โดยการเสวนาเรื่อง Nursing Innovation หรือนวัตกรรมทางการพยาบาล ทางพยาบาลวิชาชีพ ปิยะธิดา คล่องยุทธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการและผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ได้บรรยายในหัวข้อการนำนวัตกรรมมาใช้ดูแลผู้ป่วย / การนำ Ai มาช่วยพัฒนาระบบงาน / การดูแลทีมบุคลากรทางการพยาบาล เพื่อดูแลคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเผยแพร่โครงการของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

BDMS เปิดประชุมวิชาการร่วม ประจำปี 2567 พัฒนาแลกเปลี่ยนความรู้ ทางวิชาการด้านการแพทย์

BDMS ชวนร่วมโปรเจกต์ Wellness Hub of Thailand

ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศในหมวด Value Based Healthcare และทาง BDMS ยังได้ร่วมกับ ICHOM หรือ International Consortium for Health Outcomes Measurement ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในการนำแนวคิดนี้มาใช้ด้วย

พยาบาลวิชาชีพปิยะธิดา ระบุว่า ในมุมของพยาบาลอย่างที่บอกนะคะ ว่าเมื่อพยาบาลได้นำหลักการที่ดีนำเทคโนโลยีเทคโนโลยีเทคโนโลยีที่ทันสมัยนำ ai มาช่วยในเรื่องของการทำงานแล้วมี Innovation ที่ดี คนไข้ญาติรวมถึงประชาชนจะได้รับในเรื่องของเทคนิคการดูแลสุขภาพจะได้รับการส่งมอบการดูแลที่ดีและจะได้รับผลลัพธ์ในกระบวนการการรักษาที่ดี และสุดท้ายส่งเสริมให้สุขภาพวะของคนไข้และประชาชนทั่วไปดีด้วย

จากนั้นนายแพทย์ อโณทัย สุ่นสวัสดิ์ จิตแพทย์ผู้สูงอายุ ศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้บรรยายในหัวข้อ Support Services in LGBTQ+ ว่า คนบางกลุ่มไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการรักษา เพราะเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการบริการ ดังนั้นการให้บริการด้านสาธารณสุข สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นลำดับแรก ๆ คือการจัดสถานที่ให้เหมาะสม รวมถึงให้บริการอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะห้องน้ำแบบไม่แบ่งเพศ หรือเวชระเบียนที่ใช้บันทึกประวัติผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งเป็นเพศชายหรือหญิง ควรเปลี่ยนเป็นแบบฟอร์มที่ต้อนรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย

BDMS ชูเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์รักษาโรคกระดูกในผู้สูงอายุ

นายแพทย์อโณทัย ระบุว่า จริง ๆ อยากให้ทุกคน มี Mindset บางอย่างว่า เราเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว เราเข้าสู่ยุคที่พยายามจะให้บริการกับทุก ๆ คนในทางสาธารณสุข พยายามจะเข้าใจทุกคน เราพยายามให้การดูแลทุกคนไม่ใช่แค่เท่าเทียม แต่ว่าเราเข้าใจเค้าจริง ๆ ว่าเค้าเป็นใคร เค้ามาจากวัฒนธรรมไหน เค้ามาจากลักษณะทางเพศแบบไหน มีนิสัยแบบไหน มีไลฟ์สไตล์แบบไหน เราก็สามารถที่จะปรับการบริการหรือการดูแลทางสาธารณสุขของเราให้เข้ากับเขาให้ได้มากที่สุด อยากให้ผู้ให้บริการทุกคนมี Mindset ตรงนี้ว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้ ถ้าเกิดมีประเด็นไหนที่เรายังไม่รู้ ก็พร้อมที่จะเรียนไปด้วยกัน และพัฒนาไปด้วยกัน

นอกจากนี้นายแพทย์อโณทัย ยังได้ร่วมบรรยายในหัวข้อความเสี่ยงทางชีวภาพร่วมกันของโรคซึมเศร้าและโรคอ้วน จากการสำรวจขององค์การอนามัยโลก พบว่าประชากรทั่วโลกมีผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากว่า 300 ล้านคน ส่วนโรคอ้วนมีกว่า 800 ล้านคน หากตรวจพบทั้งสองโรคใน 1 คน ยิ่งทำให้เกิดโอกาสล้มเหลวของการรักษาค่อนข้างสูง ดังนั้นแพทย์เฉพาะทางของทั้งสองโรค ควรศึกษาและทำความเข้าใจทั้งสองโรคนี้อย่างละเอียดควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผู้ป่วย

สำหรับหัวข้อการเสวนาวันนี้ จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ ได้พัฒนาแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ทางวิชาการด้านการแพทย์ เพื่อนำไปพัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงให้บริการได้อย่างเท่าเทียม ตอบโจทย์กับทุกคนในสังคมต่อไป