ไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนักช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู ย้ำกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนป้องกัน
กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี ชี้ “ไข้หวัดใหญ่” สามารถพบได้ตลอดปี และระบาดในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนอันตราย ทั้งปอดอักเสบ และ ระบบประสาทได้
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่อินฟลูเอนซ่า (Influenza Virus) สามารถจำแนกออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ ชนิด เอ บี ซี และดี โดยชนิดเอและบี มักก่อให้เกิดไข้หวัดตามฤดูกาล ผู้ป่วยอาจมีอาการเริ่มต้นเหมือนไข้หวัดทั่วไป (Common cold) ส่วนใหญ่สามารถหายได้ใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางรายอาจมีความรุนแรงทำให้เกิดปอดอักเสบและเสียชีวิตได้โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
ย้อนข้อมูล“ไข้หวัดใหญ่ 2567” พบเสียชีวิต 51 ราย ส่วนมากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
สัปดาห์ล่าสุดพบไข้หวัดใหญ่-ปอดอักเสบพุ่งสูงแซงหน้าโควิดหลายเท่า

การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จะคล้ายคลึงกับไข้หวัดทั่วไป คือ ติดต่อโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอหรือจาม และการสัมผัสมือหรือการใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ โทรศัพท์ ของเล่น รีโมทโทรทัศน์ เมื่อใช้มือมาขยี้ตาหรือแคะจมูก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้โดยง่าย
ไข้หวัดใหญ่มักแสดงอาการที่อาจทำให้สับสนกับไข้หวัดทั่วไป โดยอาการแสดงเด่นๆ ได้แก่ ปวดศีรษะ ไอแห้ง มีน้ำมูกใส คัดจมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีไข้สูง และอ่อนเพลีย โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที ทั้งนี้วิธีการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาตามอาการในเบื้องต้น เช่น ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ในผู้ป่วยบางรายที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการรุนแรงแพทย์จะพิจารณาให้ยาฆ่าไวรัส ซึ่งจะเข้าไปยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ทำไห้ลดระยะเวลาอาการเจ็บป่วย ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล และลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น ซึ่งความจำเป็นในการใช้ยานี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย
ภาวะแทรกซ้อนของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
- ปอดอักเสบ การอักเสบของกล้ามเนื้อและเยื่อบุหัวใจ
- ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น เนื้อสมองอักเสบหรือภาวะชัก
กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน
- หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 12 ปี
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)
- ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
- ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรฉีดช่วงเดือนไหน? ประสิทธิภาพมากที่สุด
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถทำได้โดย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด หรือถ้าจำเป็นควรใส่หน้ากากอนามัย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ตามช่องทางเหล่านี้
นอกจากนี้ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี และที่สำคัญควรใส่หน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่แออัดหรือมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ เช่น โรงพยาบาล สถานีขนส่งสาธารณะ ห้างสรรพสินค้าหรือตลาดที่มีคนจำนวนมาก เป็นต้น
