สหภาพยุโรปอนุมัติวัคซีนแอสตร้าฯ ใช้ฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3
สหภาพยุโรปอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ให้ใช้ฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ในผู้ที่เคยรับวัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็มแรก หรือวัคซีน mRNA
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA) ให้ใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามในผู้ใหญ่แล้ว
ทำให้ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีน mRNA ที่ผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรป
ข้อมูลใหม่จากแอสตร้าเซเนก้าสำหรับใช้ "กระตุ้นเข็ม 3"
ใครบ้างที่ควรได้รับวัคซีน โควิด-19 กระตุ้นเข็มที่ 3
การอนุมัติครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณายาสำหรับมนุษย์ ของสหภาพยุโรป (CHMP) ด้วยข้อมูลสนับสนุนจากการศึกษาจำนวนมากที่บ่งชี้ให้เห็นถึงระดับภูมิคุ้มกันที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีน mRNA
แม้ว่ากว่า 65% ของประชากรโลกจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม แต่การเพิ่มจำนวนประชากรให้ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม และเข้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหลังจากการอนุมัตินี้บุคลากรทางการแพทย์จะมีตัวเลือกมากขึ้นในการแนะนำวัคซีนให้แก่ประชาชน
เซอร์ เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตราเซเนก้า กล่าวว่า “การอนุมัติให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้นั้นถือเป็นก้าวที่สำคัญในการไปสู่เป้าหมายของเราที่ต้องการป้องกันโรคโควิด-19 ให้กันประชากรทั่วโลก ซึ่งการดูแลภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคให้ยาวนานขึ้นเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมและจัดการโรคนี้ได้ในระยะยาวได้ ซึ่งวัคซีนเข็มกระตุ้นนี้จะมาช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่ลดลงตามระยะเวลาหลังจากที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกแล้ว”
ที่ปรึกษาอนามัยโลกคาด “ฝีดาษลิง” อาจระบาดหนักเพราะ “เพศสัมพันธ์”
โควิดไทย 10 จังหวัดสูงสุด ยอดป่วยเกิน 100 ราย แค่ 3 จว.
มีข้อมูลจากการศึกษามากมายที่ให้การสนับสนุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ในการเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกชนิดต่าง ๆ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า วัคซีน mRNA และวัคซีนซิโนแวค ซึ่งมีชื่อเรียกทางการว่า โคโรนาแวค (CoronaVac)
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังการได้รับวัคซีนชนิดเดียวกัน (ผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มแรกเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า) ในสหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชียและละตินอเมริกา
นอกจากนั้นยังได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังการได้รับวัคซีนต่างชนิดกัน (ผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มแรกเป็นวัคซีนไวรัลเวคเตอร์อื่น ที่ไม่ใช่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนเชื้อตาย หรือวัคซีน mRNA) ในหลายประเทศนอกสหภาพยุโรป
จากข้อมูลการศึกษาแบบจำลองในการประเมินผลกระทบของโรคโควิด-19 ทั่วโลก พบว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 กว่า 50 ล้านราย ป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 5 ล้านราย และได้ช่วยปกป้องชีวิตผู้คนกว่า 1 ล้านชีวิตจากโรคโควิด-19
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า
สำหรับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า (ChAdOx1-S [Recombinant]) คิดค้นโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด วัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยการนำส่วนของสารพันธุกรรมที่ใช้ในการถอดรหัสการสร้างหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโควิด -19 หรือ ไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ใส่ในโครงของอะดีโนไวรัสซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไปในลิงชิมแปนซีที่ถูกทำให้อ่อนแรงลงและไม่สามารถแบ่งตัวได้
โดยหลังจากฉีดวัคซีนเซลส์ในร่างกายมนุษย์จะตอบสนองโดยการสร้างโปรตีนที่มีลักษณะเดียวกันกับหนามโปรตีนผิวเซลล์ของโควิด-19 ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ในกรณีที่ได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายในภายหลัง
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนชนิด ไวรัลเวคเตอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่ถูกพัฒนาโดยการนำไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลง แล้วฝากสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไปซึ่งทำให้ไม่สามารถแบ่งตัวและไม่สามารถก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ได้ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์มักจะใช้เทคโนโลยีวัคซีนนี้ต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสอื่นๆ อาทิ ไข้หวัดใหญ่, อีโบลา, และ HIV เป็นต้น
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ในกว่า 90 ประเทศ และจากการขึ้นทะเบียนสำหรับการใช้ในภาวะฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลกในครั้งนี้จะช่วยเร่งให้มีการเข้าถึงวัคซีนใน 144 ประเทศผ่านกลไกการจัดซื้อและจัดสรรวัคซีนของโครงการโคแวกซ์ (COVAX)
นอกจากนี้ ภายใต้ข้อสัญญาการอนุญาตให้ใช้สิทธิช่วง (sub-license agreement) กับแอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ถูกผลิตและส่งมอบโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย โดยใช้ชื่อวัคซีนว่า COVISHIELD
เด็กป่วย “โรคตับอักเสบปริศนา” ทะลุ 600 รายทั่วโลก ยังคงไม่พบสาเหตุ
สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65