ศูนย์บางซื่อ เปิด Walk in ฉีดวัคซีนเข็ม 5 ปรึกษาแพทย์ก่อนได้
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิด Walk in ฉีดวัคซีนเข็ม 1-4 ทุกวันเวลา 09.00-16.00 น. สำหรับเข็ม 5 สามารถขอปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดได้
จากกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีแนวทางการให้วัคซีนโควิดเข็ม 5 เป็นทางการ แต่จากนโยบายในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์หรือต้องการรับวัคซีนที่มากกว่าเข็มที่ 4 สามารถติดต่อที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยสามารถขอปรึกษาแพทย์ก่อนได้ ทั้งจากระยะเวลาการให้วัคซีน ชนิดวัคซีน และจุดประสงค์การรับวัคซีน เช่น ผู้ที่อาจไปตรวจระดับภูมิคุ้มกันมาแล้ว พบว่าภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยเข้ารับบริการที่ประตู 2 เวลา 9.00-16.00 น.
"หมอยง" เผย 10 ข้อการฉีดวัคซีน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกัน
ไทยเร่งตรวจคุณภาพวัคซีน "ฝีดาษ" รุ่นแรก ฉีดได้ถึง 5 แสนคน ในกรณีจำเป็น
ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเปิดบริการทั้ง 3 ระบบ
1. คนเดิมบางซื่อ ศูนย์ฯ ทยอยทำการนัดฉีดเข็มกระตุ้นและส่งsmsแจ้งเตือนวันอัตโนมัติ
2. จองคิวเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3,4) ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ท่านสามารถเลือกวันฉีดที่สะดวกได้ล่วงหน้าในวันฉีด ไม่ต้องผ่านจุดลงทะเบียนอีก สามารถรับใบคัดกรองและเข้าสู่จุดฉีดยาเลย
ทั้งข้อ 1 และ 2 พบกันในวันนัดที่ประตู 2 เก้าอี้สีขาว
3. walk in สำหรับท่านที่ไม่สะดวกจองคิวล่วงหน้าในวันฉีด เพิ่มขั้นตอนการลงทะเบียน ก่อนฉีดวัคซีน
- อายุ 12 ปีขึ้นไป พบกันที่ เก้าอี้สีแดง ประตู 2
- อายุ 5-11 ปี พบกันที่ เก้าอี้สีแดง ประตู 3
หมายเหตุ
1. ให้บริการวัคซีนทุกเข็ม
2. เข็มกระตุ้น สามารถเลือกรับบริการชนิดเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าชั้นผิวหนัง
3. เข็ม1และ 2 ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อเต็มโดสเท่านั้น
4. ระยะห่างเข็มกระตุ้น เป็นไปตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
- เข็มที่ 3 โดยฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วอย่างน้อย 90 วัน
- เข็มที่ 4 โดยฉีดเข็มที่ 3 มาแล้วอย่างน้อย 120 วัน
5. ชนิดวัคซีนที่มีให้บริการ ได้แก่ ไฟเซอร์,แอสตร้าเซเนก้า,ซิโนแวค
6. ให้บริการได้ทั้งคนไทย ต่างชาติ/ต่างด้าว ทั้งในระบบและนอกระบบ
7. คนเดิมบางซื่อตรวจสอบวันนัดได้ที่แอพพลิเคชั่น Vaccineบางซื่อ
- ระบบ Android
https://bit.ly/3wJYsiB
- ระบบ OS
https://apple.co/31O9FmO
และสามารถเลือกรับวัคซีนได้โดยสมัครใจ
8. หากไม่สะดวกมาในวันนัด สามารถมาหลังวันนัดได้ โดยไม่ต้องแจ้งเลื่อนนัดอีก
สำหรับระยะห่างเข็มกระตุ้น
เข็มที่ 4 เป็นผู้ที่เคยฉีด สูตร AAP, AAM โดยฉีดเข็มที่ 3 มาแล้วอย่างน้อย 120 วันหรือ เป็นผู้ที่ฉีดสูตร SSA, SSP, SSM, โดยฉีดเข็มที่ 3 มาแล้วอย่างน้อย 90 วัน
เข็มที่ 3 เป็นผู้ที่เคยฉีด สูตร AA, AP, AM, PP, MM, SA, SP, SM โดยฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วอย่างน้อย 90 วัน (เด็กอายุ 12-18 ปี ที่ฉีด PP จะต้องฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วอย่างน้อย 120 วัน) หรือ เป็นผู้ที่เคยฉีดสูตร SS โดยฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วอย่างน้อย 30 วัน
(P = Pfizer ไฟเซอร์ A = AstraZeneca แอสตร้าเซเนก้า M = Moderna โมเดอร์นา S = Sinovac หรือ Sinopharm ซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม)
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2565 ผู้ป่วยใหม่ จำนวน 3,001 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 3,001 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,240,122 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 3,813 ราย หายป่วยสะสม 2,230,864 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 34,056 ราย เสียชีวิต 30 ราย เสียชีวิตสะสม 8,445 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 799 ราย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เน้นความสำคัญให้ประชาชนได้รับวัคซีนโดยทุกกลุ่มควรต้องได้รับวัคซีนทั้งเข็มหลักและเข็มกระตุ้นอย่างครอบคลุม (Universal Vaccination) ถือเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 แม้สถานการณ์โควิด-19 ในไทย จะลดระดับการแพร่ระบาดและสามารถควบคุมได้
โดยแต่ละจังหวัดต้องครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มีความครอบคลุมเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 41 ทั้งนี้ จึงฝากขอความร่วมมือจากประชาชนให้เข้ารับวัคซีนทั้งเข็มหลักและเข็มกระตุ้นในสถานพยาบาล หรือ รพ.สต ใกล้บ้าน ซึ่งสธ. ได้มีการกระจายวัคซีนไปยัง รพ.สต. ทั่วประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการ ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย