ส.ว.จับมือส.ส.พปชร.เล่นเกมยื้อแก้รธน. ยื่นศาลรธน.ตีความ
ญัตติ ของ ส.ส.พลังประชารัฐ และ ส.ว.บางส่วน ที่เสนอขอมติรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกิดข้อกังวล จากพรรคก้าวไกล ที่มองว่า คำวินิจฉัย อาจนำไปสู่การปิดประตูในการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และไม่สามารถหนีออกจากวงจรรัฐประหารได้
ข้อกังวลนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อธิบายผ่านญัตติ ที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และคณะ ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อขอมติที่ประชุมให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อำนาจของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายชัยธวัชเชื่อว่า เป้าหมายการยื่นของนายไพบูลย์ไม่ใช่การยื้อเวลา แต่เป็นการปิดประตูในการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐธรรมนูญปี 2560 ตลอดไป และหากจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะเกิดขึ้นจากการรัฐประหารเท่านั้น
นายชัยธวัช ยังตั้งคำถามจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังปรัชารัฐ ว่ามีจุดยืนอย่างไรในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่ประกาศว่าให้เดินหน้า แต่ก็ไม่ห้ามนายไพบูลย์ ซึ่งเป็นถึง "รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" ดำเนินการในเรื่องนี้ พร้อมเรียกร้องให้ พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย โหวตคว่ำญัตติดังกล่าว เพื่อรักษาจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การยื่นญัตติของ ส.ส. และ ส.ว. ถึงจะทำได้ แต่ยังต้องผ่านการพิจารณาของประธานรัฐสภา ที่ประชุมรัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องหรือไม่ โดยพรรคยังสนับสนุนร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่มีประเด็นใดขัดรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อถามย้ำจุดยืน ว่าจะโหวตคว่ำญัตติของ ส.ส. และ ส.ว.ใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่าสนับสนุนร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่มีประเด็นใดขัดรัฐธรรมนูญ
ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ปฏิเสธรัฐบาลไม่ได้เล่น 2 บทบาทในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะลงมติรับหลักการวาระที่ 1 ในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนแน่นอน ส่วนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตีความอำนาจ เหมือนที่เคยมีคำวินิจฉัยมาแล้วในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2555
ส่วนการประชุมวิป 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน และวุฒิสมาชิก ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นั่งหัวโต๊ะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อหารือกรอบการอภิปรายและลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยกรอบเวลาการลงมติ ยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องดูว่าจะพิจารณาทั้ง 2 เรื่องเสร็จในช่วงเวลาใด พร้อมยอมรับว่าเป็นประเด็นที่มีการหารือกันค่อข้างนาน เพราะสมาชิกวุฒิสภา ไม่ต้องการที่จะลงมติในช่วงเวลากลางคืน เพราะเป็นห่วงเรื่องการชุมนุม
ส่วนการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ นายชวน คาดการณ์ว่าจะเสร็จภายใน 4 ชั่วโมง เพราะจะมีการนับคะแนน และใช้บัตรพิเศษ เพื่อให้เห็นว่า วุฒิสมาชิก ที่เห็นด้วย ออกเสียงครบเกินกว่า 84 เสียง ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่
“ไพบูลย์” ซัดผู้ชุมนุมมานิดเดียว กดดันแก้รธน. หวังแย่งอำนาจรบ. โวรู้ทันหมด