“ประวิตร” ชี้เหตุยิงกันหลังม็อบเลิก ผู้ชุมนุมทำกันเอง ถามจะให้ทำอย่างไร
รองผบช.น.ฟันธง "ปาบึ้ม - ยิง" ในม็อบ การ์ดราษฎรทะเลาะกันเอง เสื้อเหลืองไม่เกี่ยว
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ในช่วงที่การ์ดกลุ่มหนึ่ง พานายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เดินออกจากการชุมนุม จะเห็นว่า มีการ์ดอาชีวะล้อมเป็นวงกลม 2 ชั้น แต่เกือบทุกคนไม่ได้ใส่อุปกรณ์ป้องกันใด ๆ ข้อมูลนี้ตรงกับข้อมูลของนายปกรณ์ พรชีวางกูร หนึ่งในผู้สนับสนุนการชุมนุม ที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว PPTV ว่า ที่ผ่านมาพยายามสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันให้ทีมการ์ดตลอด รวมถึงมีอุปกรณ์เพียงพอสำหรับการ์ดทุกคน
โดยอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เตรียมไว้ให้ การ์ด 1 คน จะประกอบด้วย หมวกป้องกันที่มีคุณสมบัติกันกระแทกอย่างดี แว่นตาแบบครอบ หน้ากากป้องกันสารเคมี เซตนี้เป็นอุปกรณ์เบื้องต้น ไม่รวมวิทยุสื่อสารแดง (ว.แดง) แต่ในกลุ่มที่เป็นแนวหน้าหรือแนวปะทะจะมีอุปกรณ์ป้องกันอย่างอื่นเพิ่มเข้ามา เช่น โล่ป้องกัน หรือวัสดุชนิดที่มีความเหนียวกันอาวุธได้ แต่ไม่ใช่เสื้อเกราะ ซึ่งค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าอุปกรณ์ป้องกัน จะอยู่ที่ 2,000 – 3,000 บาท ต่อคน แต่ที่ผ่านมา กลุ่มการ์ดแต่ละกลุ่มไม่ได้ร้องขอ ทำให้เข้าใจว่า ต้องการโชว์เสื้อช็อปของสถาบันตัวเอง นายปกรณ์ บอกอีกว่า จากการพูดคุยกับการ์ดอาชีวะ รู้สึกว่า การ์ดอาชีวะเกือบทั้งหมดมีความเป็นตัวเองสูง เข้าถึงยาก แม้จะพยายามเข้าใจ และประสานรอยร้าวต่างๆที่เกิดขึ้น แต่หลายครั้งเข้าไม่ถึงคนกลุ่มนี้
ด้าน แหล่งข่าวในระดับแกนนำกลุ่มราษฎร เล่าว่า การประสานงานกับการ์ดอาชีวะจะใช้วิธีประสานงานเป็นภารกิจ ๆ ไป กลุ่มการ์ดจะไม่ได้อยู่ร่วมตัดสินใจ หรือ กำหนดยุทธศาสตร์ เช่น เวลามีการเคลื่อนไหว เมื่อต้องการการดูแลผู้ชุมนุม, ตรวจกระเป๋าคนเข้าพื้นที่, ดูแลแกนนำ ผู้ประสานงานของแกนนำก็จะแจ้งทีมการ์ด จากนั้น กลุ่มการ์ดก็จะไปแบ่งงานกันเอง ซึ่งการแบ่งงานของกลุ่มการ์ด จะเป็นระดับหัวหน้าของแต่ละกลุ่มหารือกัน แหล่งข่าวบอกอีกว่า แม้จะมีกลุ่มการ์ดอาสา รวม 30-40 กลุ่ม แต่จะมีระดับหัวหน้าที่หารือแบ่งงานกันประมาณ 4-5 คน เป็นรุ่นใหญ่ที่คนอื่น ๆ ฟัง ส่วนในแต่ละกลุ่มก็จะมีหัวหน้าแยกไปอีก ซึ่งระดับแกนนำจะพูดคุยกันตลอด ทั้งก่อนและหลังงานเพื่อให้การทำงานของทุกกลุ่มมีประสิทธิภาพ
ขณะที่กลุ่มการ์ด Wevo ที่นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มราษฎร จะรับภารกิจแยกออกไปจากการ์ดอาชีวะ ซึ่งหากย้อนไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โตโต้ เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่าไปกินข้าวขอบคุณการ์ดอาชีวะจำนวนหนึ่ง ย้ำว่า ตัวเองเรียนจบอาชีวะมาเหมือนกัน จึงเข้าใจความเป็นกลุ่มอาชีวะดี
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มอาชีวะกลุ่มอื่น ๆ ที่ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มราษฎร เพิ่งรวมตัวกลุ่มอาชีวะ 10 กลุ่ม ตั้งเป็น การ์ดภาคีเพื่อประชาชน โดยในกลุ่มไม่มีกลุ่ม wevo ของโตโต้ แต่ก็ย้ำว่าสามารถทำงานร่วมกันได้
แหล่งข่าวในกลุ่มแกนนำราษฎร ยอมรับว่า โตโต้ไม่สามารถสั่งงานกลุ่มการ์ดอาชีวะได้ เพราะ ทุกคนมีความเป็นปัจเจกบุคคล การทำงานจึงใช้รูปแบบประสานงานและขอความร่วมมือ ไม่ใช่การสั่งการ จะเห็นได้จาก การชุมนุมเมื่อวานนี้ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ มีการรวบรวมข้อมูลว่ามีการ์ดกลุ่มต่างๆไปร่วมดูแลผู้ชุมนุมรวม อย่างน้อย 12 กลุ่ม
สำหรับเรื่องการใส่อุปกรณ์ป้องกัน ไม่เฉพาะ แต่กลุ่มการ์ดอาชีวะที่ไม่ยอมใส่ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หนึ่งในผู้สนับสนุนการชุมนุม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ว่า แกนนำผู้ชุมนุมหลายคน ก็ไม่ยอมสวมชุดป้องกัน หลังจากนี้จะพยายามทำความเข้าใจให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยทั้งเรื่องของการ์ดและแกนนำ
อย่างไรก็ตามประเด็นเงินสนับสนุนที่ได้รับบริจาค นายปกรณ์ ยืนยันว่าจะไม่ชี้แจงที่มาที่ไป เพราะที่ผ่านมาไม่ได้บังคับให้ใครมาบริจาค แต่ทุกคนให้เงินมาด้วยความเต็มใจ และถือว่ายอมรับในสิ่งที่นายปรณ์จะนำไปใช้ต่อผู้ชุมนุมแล้ว พร้อมย้ำกรณีปัญหาการ์ดอาชีวะว่า หากจะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ต้องทำตัวให้อยู่ตรงกลางสามารถพูดคุยกันได้ เพื่อให้การขับเคลื่อนการชุมนุมไปต่อได้ และปรับสถานะของตัวเองจากเด็กอาชีวะมาเป็นรุ่นใหญ่ที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น