“เบญจา” ซัด “บิ๊กตู่” แจ้งความปิดปาก กลัวการตรวจสอบ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“ก้าวไกล” ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่กล้าหาญ หลังแจ้งความปิดปาก ปม รัฐเอี่ยวเอกชน ส่งผลค่าไฟแพง ยัน ส.ส.มีอำนาจตรวจสอบ

น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยหลังได้รับหมายเรียกคดีหมิ่นประมาทละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ทั้งคดีอาญาที่ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 14 มิ.ย.64 เวลา 09.00 น. และคดีแพ่ง มีกำหนดสืบพยานโจทย์ ในวันที่ 28 มิ.ย.64  เวลา 09.00 น.  โดยทั้ง 2 หมาย  สืบเนื่องมาจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งหมายเรียกลงวันที่ 5 มี.ค.64 ในข้อหาหมิ่นประมาท ละเมิด เรียกค่าเสียหาย  ผู้กล่าวหาคือ กรรมการบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)

“อมรัตน์” ฟ้องกลับ “แรมโบ้” ลั่น ดำเนินคดีถึงที่สุด ชี้ ใช้ม.112 ปิดปากฝ่ายค้าน

น.ส.เบญจา กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวตนถูกแจ้งดำเนินคดี ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง จากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี ไปเมื่อวันที่ (18 ก.พ.64) ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีการเปิดโอกาสให้เอกชนรายหนึ่งได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านพลังงานและสัมปทานจากภาครัฐ ท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ ปล่อยให้กลุ่มทุนแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของชาติ ซึ่งทำให้ประชาชนต้องใช้ค่าไฟฟ้าแพง ซึ่งหลังจากการอภิปรายดังกล่าวตนได้รับหมายเรียกและมีนัดรายงานตัวในวันที่ 14 มิ.ย.64 และในคดีแพ่งนัดรายงานตัวในวันที่ 28 มิ.ย.64

ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้สึกแปลกใจกับการแจ้งความดำเนินคดี และรู้สึกหดหู่กับประเทศนี้กับการที่ การตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติกลับถูกแจ้งความดำเนินคดี  การพูดความจริง การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนกลับถูกไล่ล่าดำเนินคดี 

“ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังถูกแจ้งความทั้งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลตามครรลองรัฐสภา ปฎิบัติตามข้อบังคับ ไม่อยากนึกเลยว่าประชาชนคนธรรมดาที่ลุกขึ้นมาตั้งคำถามต่อการบริหารงานของรัฐบาลเขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นไรกลับไป” น.ส.เบญจา กล่าว

นอกจากนี้การนำเสนอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าข้อมูลในการนำเสนอในการอภิปรายมีเจตนาที่ทำไปเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ และเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และ ประชาชน เป็นสำคัญ  โดยในการอภิปรายมีความจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงองค์กรและบุคคลต่างๆ ที่เชื่อมโยง กับเครือข่ายของระบอบประยุทธ์  ซึ่งมีความเสี่ยงที่ดิฉันอาจจะถูกฟ้องดำเนินคดี 

อย่างไรก็ตามแต่สิ่งที่ดิฉันต้องการจะนำเสนอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ คือการตั้งคำถามถึงเครือข่ายค้ำยันฐานอำนาจของระบอบประยุทธ์ที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขยายกิจการโดยได้รับการสนับสนุน ลดหย่อน เอื้ออำนวยความสะดวก จากรัฐทหารทั้งในเชิงข้อกฎหมาย และการแลกเปลี่ยนกันในแบบต่างๆ รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน  ซึ่งอันที่จริงแล้ว สิ่งที่ดิฉันได้อภิปรายไปในสภาฯนั้น  ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ สามารถลุกขึ้นตอบและชี้แจงได้  ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากกว่านี้  แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลับปัดไม่ตอบคำถามที่ดิฉันได้ตั้งคำถามไปในการอภิปรายฯ อีกทั้งทีมองครักษ์พิทักษ์ ของพล.อ.ประยุทธ์ก็กลับลุกขึ้นทำหน้าที่ประท้วงและปกป้องคุณประยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่เปิดโอกาสให้การอภิปรายสามารถทำได้อย่างราบรื่นนัก

“ในการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรของฝ่ายนิติบัญญัติในการตรวจสอบทางนโยบายและการทำงานของฝ่ายบริหาร ในรัฐบาลทหาร ของระบอบประยุทธ์ ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีอภินิหารทางกฎหมายคอยอุ้มชู ดิฉันทราบดีว่าไม่ง่ายเลย แต่ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชน ดิฉันจะยังยืนหยัด ยืดอก ตัวตรง  ไม่หวั่นเกรงต่อผู้มีอำนาจ  และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา  เพื่อเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นให้กับสภาผู้แทนฯ ว่าจะยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในการทำหน้าที่ตรวจสอบและรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไปได้” น.ส.เบญจา กล่าว

ตนอยากสื่อสารไปยังรัฐบาลและนายกฯว่า แม้หมายเรียกครั้งนี้ท่านจะไม่ได้ฟ้องเองแต่ก็บ่งบอกว่า หากท่านรับไม่ได้กับการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตยก็สมควรที่จะลาออกแล้วไปอยู่ในที่ที่ท่านชอบและคุ้นชิน เพราะการเป็นนายกฯในฐานะประมุขฝ่ายบริหาร เมื่อถูกรัฐสภาในฐานะสถาบันฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบกลับแจ้งความกลับเช่นนี้มันไม่สง่างามเลยสักนิด พฤติกรรมหลายอย่างของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ดิฉันได้เห็นว่าท่านไม่ได้กล้าหาญอย่างชายชาติทหารจริง แต่ท่านขี้ขลาดและกลัวความจริงกว่าสิ่งอื่นใด การแจ้งความเพื่อปิดปากหรือทำให้รู้สึกกังวลจากกรณีนี้ เบญจา กล่าวว่าพวกท่านคิดผิด เพราะการแจ้งความปิดปากเช่นนี้ยิ่งชัดเจนว่า พวกท่านกลัวการตรวจสอบและกลัวความจริงที่จะปรากฎออกมา

วันที่ 14 มิ.ย.และวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ดิฉันจะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลแพ่ง และศาลอาญา  ด้วยความภาคภูมิใจว่าดิฉันทำงานได้ตรงเป้า จนนายกฯดิ้นและแจ้งความฟ้องร้องจากการเผยหลักฐานความไม่ชอบธรรมดังกล่าว แล้วพบกันเบญจากล่าวทิ้งท้าย

“บิ๊กตู่” ฉุน ฝ่ายค้าน ชี้แจงไม่ฟัง นั่งหัวเราะ ทิ้งไมค์เดินจากห้อง  

 

 

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ