นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมวงพูดคุยและรับประทานอาหารกลางวันกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ (19 กรกฎาคม 2565) ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรเป็นพิเศษหรือคุยถึงการอภิปราย เพียงแต่รอเวลากินข้าวเท่านั้น
ผู้นำสหรัฐฯ ลั่นไม่ทิ้งตะวันออกกลาง ยัน พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งขัน
รอเลย! เช็กเวลาเปิดขาย "สลากดิจิทัล" งวด1 ส.ค. 65 จำนวน 7.1 ล้านใบ เริ่มขาย 17 ก.ค. 65
ไม่ได้มีการขอคำปรึกษาด้านกฎหมายใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ตนได้เล่าเหตุการณ์การเมืองในอดีตรวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่สมัยอดีตนายกชวน หลีกภัย, นายบรรหาร ศิลปอาชา, นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเล่าให้ฟังแบบสนุกไม่ได้เคร่งเครียดอะไร
พปชร.- ปชป. มั่นใจศึกซักฟอก 11 รัฐมนตรี แจงได้ไร้ปัญหา
“โออาร์” ลดอีก น้ำมันเบนซิน 0.30-0.50 บาท ตลาดโลกฟื้นแล้ว 2 ดอลลาร์
ส่วนการอภิปรายในครั้งนี้เบาบางกว่าในอดีตหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า มองว่าบรรยากาศธรรมดา เพราะมีรัฐมนตรีถูกซักฟอกเยอะ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะในอดีตเคยถูกอภิปรายทั้งคณะ 7 วัน 7 คืนก็มีมาแล้ว แต่การเล่าดังกล่าวถือเป็นการปลุกใจก่อนการอภิปรายในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น ตัวเองไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เพียงแต่เป็นการเล่าให้ฟัง ย้ำตัวเองไม่ได้หวั่นไหวอะไรเพียงแต่อยากเล่าให้รัฐมนตรีฟังเท่านั้น ทั้งนี้มีการประเมินและคาดการณ์สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตหรือไม่นั้น นายวิษณุ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการคาดการณ์อะไรอื่นอาจจะทำแต่ตัวเองไม่ได้ทำ
นายวิษณุ ระบุอีกว่า ไม่กังวลแต่ห่วงการบริหารจัดการเวลาในการอภิปรายของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ใช้เวลากว่า 4 วันแต่มีประเด็นเยอะแม้จะมีการกำหนดกรอบเรื่องไว้แล้วก็ตาม จะบริหารยากหน่อย ซึ่งถ้าหากเกินกรอบเวลาที่กำหนดก็ต้องไปอภิปรายต่อในช่วงเวลา 00.30- 1:30 น. หรือไม่ก็ต้องไปอภิปรายนอกสภา
ส่วนกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกอภิปรายเป็นคนสุดท้ายจะมีนัยยะอะไรแอบแฝงหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตัวเองไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่เพราะได้ยินจากข่าว อีกทั้งหากเรียกลำดับเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเป็นเรื่องปกติและถ้าหากตัวเองเป็นฝ่ายค้านก็จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเคยว่าการอภิปรายในครั้งนี้ ส.สฝ่ายค้าน 1 คน 1 คนสามารถอภิปรายรัฐมนตรีได้มากกว่า 1 รัฐมนตรีตามที่ได้มีตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรและดูดีมีระเบียบ
สำหรับเสียงจะปริ่มน้ำหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ยังไม่เห็นมีใครพูดถึง ทั้งนี้จะต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาที่มีอยู่ คือ 239 เสียงเท่ากับหรือมากกว่าจึงจะไม่ไว้วางใจหลุดจากตำแหน่ง หากมีเพียง 238 ก็ถือว่าสอบผ่าน ส่วนคะแนนเสียงไว้วางใจจะมีเท่าไหร่นั้นในกฎหมาย ม.151 ถือว่าไม่ใช่สาระสำคัญอาจจะมีการงดออกเสียงเป็นร้อยก็ได้ แต่ยอมรับว่าส่งผลต่อความรู้สึกของสื่อมวลชนและประชาชนก็จะนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งตนเองไม่สามารถคาดการณ์คะแนนเสียงของฝ่ายค้านได้เพราะขณะนี้มีอยู่ 200 กว่าเสียง ไม่รวมงูเห่าที่ไม่สามารถระบุได้ว่าขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านมีอยู่เท่าไหร่กันแน่ หรือแม้กระทั่งฝ่ายรัฐบาลเองจะงดออกเสียงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดก็ไม่สำคัญเท่ากับ 239 คะแนนที่จะเป็นตัวเลขหลักซึ่งอยากให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชน
ส่วนรัฐมนตรีแต่ละคนที่อาจจะมีคะแนนเสียงไม่เท่ากันนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไรเพียงแต่ทำให้รู้สึกเสียเครดิตซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอภิปรายกันมา 3 ครั้งแล้วในรัฐบาลซึ่งคะแนนเสี่ยงแต่ละครั้งก็ไม่ได้เท่ากัน ส่วนที่มีการเรียกร้องว่ารัฐมนตรีที่มีคะแนนไม่ไว้วางใจสูงจะต้องรับผิดชอบนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีปัญหาในทางกฎหมายไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ในมารยาททางการเมืองก็ไม่เคยมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะเดียวกันหากคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจสูงเป็นตัวนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันหากไม่ถึง 239 เสียง
ทั้งนี้แม้ว่าประเด็นคำถามในเรื่องของพลังงานนายกรัฐมนตรีสามารถมอบหมาย นายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอบแทนได้ แม้ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อการอภิปราย
กฟผ.โอด แบกค่าเชื้อเพลิงเกือบแสนล้านบาท
กทม.เปิด 2 ช่องทาง ขอภาพ CCTV ออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง
