ตลอดหลายปีที่ผ่านมาภาคเอกชนต้องเผชิญกับสถานการณ์คอร์รัปชันที่รุนแรงมาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือ ป.ป.ช เดินหน้าจับมือกับภาคธุรกิจสร้างเครือข่ายจูงใจภาคเอกชนร่วมกันสกัดการโกง หยุดการจ่ายสินบนแลกกับการอำนวยความสะดวกในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ตลอดระยะเวลาขับเคลื่อนโครงการสามารถลดการจ่ายสินบนได้ถึง 50%
ปัญหาสินบนข้ามชาติเป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศไทยเผชิญมาอย่างยาวนาน จากการสำรวจที่ผ่านมาพบเงินไหลออกผิดกฎหมาย เฉลี่ยปีหนึ่งกว่า 4.3 แสนล้านบาท
"โฆษกพรรคกล้า" มองเสียเวลากลับไปแก้ระบบเลือกตั้ง หวั่นกระทบแก้ รธน.ห้าม ส.ว.เลือกนายกฯ
รัฐบาล ปลื้ม ปชช.พอใจ "คนละครึ่ง เฟส 5" รายเดิมยืนยันสิทธิผ่าน “เป๋าตัง” เริ่ม 19 ส.ค.นี้
ส่วนเงินไหลเข้าผิดกฎหมาย เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เงินผิดกฎหมายนี้ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการติดสินบนข้ามชาติ
แม้สถานการณ์คอร์รัปชันยังไม่ดีขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลย งานวิจัยหลายชิ้นในปี 2547 และปี 2557 พบการจ่ายสินบนระดับครัวเรือนลดน้อยลง จำนวนนักธุรกิจที่ต้องจ่ายสินบนจากเดิมที่ต้องจ่ายกัน 70-80% เมื่อปี 2547 หรือประมาณ 10 ปีก่อนหน้านี้ ปรับลดลงมาเหลือ 15-20% ในปี 2557
ขณะที่หน่วยงานภาครัฐก็เปิดพื้นที่ให้บริการ และสร้างเครื่องมือให้ประชาชนร้องเรียน ตรวจสอบการทุจริตได้มากขึ้นผ่านอีเซอร์วิสภาครัฐมากถึง 500 โครงการ
ปัจจุบันนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันในภาคธุรกิจได้รับเกียรติจากผู้บริหาร ป.ป.ช.ในการพูดคุยร่วมกันเป็นระยะ ถ้ามีประเด็นสำคัญ ๆ เราจะมีการแลกเปลี่ยนกันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรในอนาคต
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เห็นได้ชัดเจนว่าปัญหาคอร์รัปชันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น บริษัทขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก เกิดความตระหนักรู้ มีการกำหนดนโยบายว่าจะไม่รับและจ่ายเงินสินบน มีการจูงใจในระดับสมาคมด้วยกันเอง ชักชวนคนที่เป็นสมาชิกยึดแนวทางเดียวกัน ในอนาคตการแก้ปัญหาคอร์รัปชันจะขยายไปสู่ระดับ Eco system เพื่อลดการทุจริตในภาคเอกชนให้ได้มากที่สุด
กูรูนางงามเคาะ ใครมีลุ้นมง Miss Universe Thailand 2022
โควิดวันนี้ (29ก.ค.65) คร่าชีวิตเพิ่มเฉียด 40 ราย ยอดติดเชื้อพุ่ง