นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ณ เวลานั้น มีการบริจาคเข้ามาจริง ในช่วงนายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารฯ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามานั่งในตำแหน่งนี้แทน แต่ขณะนั้น ตนเองในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ไม่ทราบเรื่องการบริจาค แต่ย้ำว่าโดยหลักการแล้วสมาชิกส่วนใหญ่ ที่ใกล้ชิดหรือรู้จักกับคนบริจาค ก็น่าจะต้องรับทราบ หรือรู้จักกับผู้บริจาคเป็นปกติอยู่แล้ว
เปิดสาเหตุ นายทุนจีน เลือกเปิดผับปาร์ตี้ยา และบ่อนผิดกฎหมายในไทย
”ซาร์รี่” ขึ้นแท่นกุนซืออิตาลีดีสุดบอลยุโรป
เมื่อถามว่า ในมุมของ นายเรืองไกร ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรค พปชร. มองว่าจะสามารถเอาผิดกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ได้หรือไม่นั้น นายเรืองไกรระบุว่า ประเด็นนี้ต้องตรวจสอบว่า “ตู้ห่าว” หรือ นายชัยณัฏฐ์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนผับจีน บริจาคเงินให้ พปชร.ในนามส่วนตัว หรือ ในนามนิติบุคคล ตามมาตรา 74 ของ พรป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2561 ถ้าบริจาคในนามส่วนตัว จะตัองเป็นบุคคลผู้ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น แต่ถ้าบริจาคในนามนิติบุคคล ก็จะต้องเป็นนิติบุคคลที่ชาวต่างชาติ ถือหุ้นไม่เกิน 49%
ในกรณีนี้ เมื่อตรวจสอบเอกสารดูแล้ว จะพบว่า “นายตู้ห่าว” ปรากฏชื่อการบริจาค ในฐานะ “บุคคล” น่าจะไม่เข้าข่ายผิดตามพรป.พรรคการเมืองในมาตรานี้
อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกร ยังเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ของเพียงแค่แสดงบัญชี เอกสาร รายรับ ในช่วงที่มีการบริจาคเท่านั้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ส่วนความเคลื่อนไหวของสมากชิกพรรคพลังประชารัฐ ตลอดทั้งวัน ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารีฐ อีกครั้ง ปรากฏว่า เลขาฯ ส่วนตัวนายสมศักดิ์ ระบุว่า พรรคมอบหมายให้ชี้แจงเบื้องต้นเพียงเท่านี้ ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. นั้น ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยสั้นๆ โดยนายอนุชา รับสาย ขอเช็คคิว ก่อนนจะติดต่อไม่ได้หลังจากนั้น ส่วนนางนฤมล ภิญโญสิญวัฒน์ในฐานะเหรัญญิกพรรค ปรากฏว่า กดตัดสายโทรศัพท์ทิ้งในทันทีที่ติดต่อไป