นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ถึงรูปแบบการเรียกรับเงินของอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เป็นคนชี้เป้า แบบแรก คือ “เรียกรับเป็นรายเดือน” โดยในเขตสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ที่ นายชัยวัฒน์ เป็นผู้อำนวยการ มีการให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 6 เขตในพื้นที่ จ่ายเงิน 2,000 บาทต่อเดือน รวมเป็นเงิน 12,000 บาทต่อเดือน โดยแต่ละเดือนจะมีเอกสารบันทึกไว้ว่าหน่วยไหนจ่ายแล้วบ้าง หากค้างจ่ายติดกันหลายเดือนก็อาจถูกโยกย้าย
เปิดชื่อหน่วยงานใส่ซองมอบให้อธิบดีฯ
ป.ป.ช. แจงปมกรมอุทยานฯได้ A ป้องกันทุจริต
การตกลงจ่ายเงินจำนวนนี้ นายชัยวัฒน์ บอกว่า เกิดขึ้นก่อนตนเองจะกลับเข้ารับราชการ ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะจ่ายกันมาตั้งแต่นายรัชฎา รับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ คือ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยเงินที่ให้ เชื่อว่า คนให้ไม่ได้เจียดจากงบประมาณ แต่ยอดเรียก เรียกจากงบประมาณ โดยมีหัวหน้าหน่วยเป็นคนรับผิดชอบในการจ่าย
นอกจากการจ่ายเป็นรายเดือน นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า อีกรูปแบบ คือการ “จ่ายเป็นรายครั้ง” เพื่อรักษาตำแหน่ง” โดยจะมีการจัดเรทตามเกรดอุทยาน A , B , C เรียกเงินตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไป ที่ราคาสูงที่สุดคือเขตอุทยานทางทะเล จ่ายสูงถึงหลักล้านบาท
เมื่อถามว่า เสียเงินไปแล้ว ถอนทุนคืนจากตรงไหน นายชัยวัฒน์ บอกว่า เท่าที่ตนเองมีข้อมูล คือ ใช้วิธีการหาผลประโยชน์ต่อกับรีสอร์ทหรือโรงแรมในพื้นที่ โดยเรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการอนุญาตให้เปิดในพื้นที่ได้
นายชัยวัฒน์ ยืนยันอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะถูกปลดออกจากราชการ จนกลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง ไม่เคยมีเรื่องการเรียกเก็บเงินในหน่วยงานที่ตนเองอยู่ เพราะตนเองไม่เคยเรียกเก็บใคร
เมื่อถามว่า เคยได้ยินเรื่องการรับเงินลักษณะนี้หรือไม่ นายชัยวัฒน์ ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นทางทะเลที่วิ่งกัน เพราะมีรายได้ แต่ถ้าหน่วยงานเล็กๆ เช่น หน่วยที่มีหน้าที่ปกป้องป่า จะวิ่งเพื่ออะไร ทุกวันนี้ที่ต้องวิ่งเพราะครอบครัวอยู่ที่นี่ หากถูกย้ายก็เดือดร้อน จึงต้องหาเงินจ่ายเพื่ออยู่ครอบครัว