หากมองย้อนไปช่วงการเลือกตั้งในปี 2562 สถานการณ์ของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ต่างจากพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 3 ที่ขณะนั้นมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคและถูกเลือกให้เป็นแคนดิเดต ชิงเก้าอี้นายกฯ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง แต่กกต. นับคะแนนปัดเศษ จึงทำให้เพื่อไทยพ่ายให้พรรคพลังประชารัฐกลายมาเป็นฝ่ายค้าน
เลือกตั้ง 2566 : "จตุพร" เตือน "พิธา" ระวังพรรคร่วมแตกแถว
เลือกตั้ง 2566 : ชำแหละคดี"พิธา" ขวากหนามไปไม่ถึงฝันนายกฯ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตนักการเมือง และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บอกว่า การที่พรรคเพื่อไทยเปิดทางเสนอให้ นายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะทางพรรคเองรู้อยู่แล้วว่านายธนาธร มีคดีถือครองหุ้นสื่อ แล้วจะมีจุดจบอย่างไร หากฝ่ายค้านได้เป็นรัฐบาล แน่นอนว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก็จะตกเป็นของพรรคเพื่อไทย
ในกรณีของนายพิธาก็เช่นกัน ที่มีข้อมูลระบุถือหุ้น ITVมาตั้งแต่ปี 2542 และมาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใน 2562 นายจตุพร บอกว่าเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ก่อตั้งคือใคร และเชื่อว่าข้อมูลรายละเอียดของการถือหุ้นไม่ได้มีการเปิดเผยหรือสามารถล้วงข้อมูลกันได้ง่ายๆ ซึ่งคนที่นำข้อมูลไปเปิดเผยแม้ปัจจุบันจะอยู่สังกัดพรรคฝ่ายตรงข้าม แต่ก็เคยเป็นสมาชิกและคนคุ้นเคยของพรรคเพื่อไทย จึงเชื่อว่าข้อมูลที่หลุดออกไปมาจากฝ่ายเดียวกับพรรคก้าวไกล
นายจตุพรบอกว่าที่น่าจับตา หากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ คือการวางตำแหน่ง ของพรรคเพื่อไทย หากได้เข้าร่วมรัฐบาล เพื่ีอไทยขอที่นั่งประธานสภา หากพรรคก้าวไกล หากนายพิธา แคนดิเดตนายกฯ ถูกดำเนินคดีปมถือหุ้นสื่อ แน่นนอนว่าเก้าอี้นายกก็จะตกเป็นของพรรคเพื่อไทยอเชื่อว่าเป็นเกมที่พรรคเพื่อไทยวางไว้อยู่แล้ว
