วันที่ 11 มิ.ย.2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ในรายการเปิดโต๊ะข่าว ทางช่อง PPTV HD 36 กรณี "ทักษิณ-คนบ้านป่า" นั้นว่า ตอนแรกที่ฟังนายทักษิณพูด กำลังคิดว่าเขาตั้งใจพูดหรือเปล่า หรือว่าทำปืนลั่น เผลอไป หรือจงใจ ก็พยายามประมวลดู เพราะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกต่อความสัมพันธ์ในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างปฏิเสธไม่ได้
เพราะนายทักษิณพูดพาดพิงถึงสองลุง ซึ่งทั้งสองลุงก็คือบุคคลสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลสองพรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ
ซึ่งเมื่อนายทักษิณพูด นักข่าวจี้ถามว่าหมายถึงสองลุงหรือเปล่า นายทักษิณก็ถอย แล้วก็บ่ายเบี่ยง เฉไฉไป ไม่ย้ำ เหมือนกับโยนหินถามทาง หรือสร้างกระแส หรือจุดประกายอะไรขึ้นมา ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล พอดูนายกฯ ก็ไม่รู้ไม่ชี้ เฉไฉไปนู่นนี่นั่น นายภูมิธรรมก็บอกว่าคิดไปเองบ้าง ไปถามนายอนุทิน ก็บอกไม่ได้ยินบ้าง พอไปถาม ร.อ.ธรรมนัส เลขาธิการพรรค เขาก็ปกป้องนายทักษิณด้วยซ้ำไปว่าไม่ได้พูดหมายถึงลุง
“วันนี้เหมือนกับลุงโดนลอยแพ อย่างของนายธรรมนัส เป็นถึงเลขาธิการพรรคแล้วออกมาตีกรรเชียงแบบนี้ ผมคิดว่าเหมือนกับลอยแพลุงป้อม แล้วในสมาชิกพรรคทั้งลุงป้อม แล้วก็ของลุงตู่ ไม่มีใครออกมาเลยเงียบหมดเลย”
ทั้งที่นายทักษิณพยายามพูดว่า คดี 112 ของเขา ไม่ได้มีสาระอะไร ไม่ได้มีมูลอะไร แต่ว่าเป็นเพราะมาจากผลไม้พิษ ที่มาจากต้นไม้พิษ ก็คือ คสช. คณะรัฐประหาร หมายถึง 3 ป. ทำยัดเยียดให้เขามีมาตรา 112 แต่ว่าคนในพรรคทั้งสองพรรคเงียบหมด เหมือนกับถูกตบปากหรือกลัวอะไร หรือคิดว่ารักษามารยาท หรือกลัวว่าถ้าพูดไปแล้วจะแตกแยกจะเอาพรรคออกจากรัฐบาล กลัวจะไปเป็นฝ่ายค้าน
นายเทพไท บอกอีกว่า นายทักษิณอ่านขาด ว่าพูดไปก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะพรรคร่วมไม่กล้าหือกับนายทักษิณ ตอนนี้เกมทั้งหมดนายทักษิณเขาเป็นต่อ เขาถือไพ่เหนือกว่าทั้งสองลุง แล้วก็ถือไพ่เหนือกว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยม เพราะฉะนั้นเขาจะพูดอย่างไร เขาก็คิดว่าไม่มีใครกล้าโต้แย้ง กล้าขัดแย้ง แล้วก็เห็นได้ชัด 1 วัน 2 วันที่ผ่านมา นายทักษิณพูดก็ไม่มีใครมาแสดงความเห็นโต้ตอบ ไม่พอใจ หรือออกมาตำหนินายทักษิณเลย นายทักษิณอ่านขาดว่าเกมนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่มีน้ำยา
นายเทพไท บอกอีกว่า นายทักษิณตอนนี้เขาย่ามใจมาก และไม่แน่ใจว่านายทักษิณได้ยาดีอะไร หรือใครอยู่เบื้องหลัง ใครเป็นแบ็กอัพ ใครมาการันตี เขาเลยกล้ามากสิ่งที่เขาพูดที่ปทุมธานี คิดว่าเขากล้ามากแล้วก็พูดพาดพิงไปทุกคน แล้วพูดเหมือนกับไม่กลัวใครเลย พูดเหมือนกับว่าในประเทศนี้ข้าใหญ่ที่สุด ข้ามีอำนาจที่สุด ท็อปฟอร์มเลย เพราะฉะนั้นอยากให้สังคมตั้งข้อเกตุว่า เกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย และทำไมนายทักษิณจึงแสดงบทบาทแบบนี้
เมื่อถามว่า เมื่อวานมีช่วงหนึ่งที่นายกฯ ยอมรับว่าบทบาทของนายทักษิณแบบนี้ ตัวเองก็หนักใจ แล้วก็ไม่สบายใจ ในทางการเมืองนายกแสดงท่าทีแบบนี้ มีความหมายว่าอย่างไร นายเทพไท กล่าวว่า แน่นอนที่สุด พอนายกฯแสดงท่าทีแบบนี้ แสดงบทบาทแบบนี้ ไปกดทับบทบาทของนายเศรษฐาอย่างปฏิเสธไม่ได้ในฐานะนายกรัฐมนตรี กับส่วนที่สอง ไปกดทับบทบาทของอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร เราเห็นภาพวันที่ไปงานบวชที่ปทุมธานี อุ๊งอิ๊งค์เหมือนกับลูกเล็ก เดินตามหลังนายทักษิณไม่ใช่ฟอร์มหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับสองในส่วนของนายเศรษฐา พอนายทักษิณออกมาอย่างนี้นายเศรษฐาก็พูดอะไรไม่ได้ ตำหนิก็ไม่ได้ เพียงแต่อึดอัด เพราะว่านายเศรษฐาขาลอย ไม่มีกำลังในพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามอีกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วการทำงานกับพรรคร่วมลำบากหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า การเมืองทั่วไป การทำแบบนี้ลำบากแน่ เหมือนกับว่านายทักษิณไม่ให้เกียรติพรรคร่วม จริง ๆ การอยู่ร่วมรัฐบาลต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย พูดอะไรหวานอมขมกลืน แต่ว่าวันนี้เหมือนกับนายทักษิณไม่สนใจ ไม่แคร์ คือนายทักษิณเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้จะเขี่ยออกเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมีอะไหล่อยู่แล้ว แล้วในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีแต่ขั้วของลุงป้อมที่จะเป็นปัญหาบ้าง ไม่พอใจบ้าง แต่ขั้วของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ในพลังประชารัฐไม่รู้สึกอะไรแล้วยังรู้สึกปกป้องนายทักษิณด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นนายทักษิณอ่านเกมขาดว่า สิ่งที่เขาขยับหรือพูดอะไรออกไป ไม่มีผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาล
นายเทพไท ยังพูดถึงกรณีที่นายทักษิณพูดถึงคดี 112 นั้นว่า นายทักษิณพยายามเปิดประเด็นนี้ เพื่อที่จะไปรองรับการยื่นขอความเป็นธรรมของทนายความเพิ่มเติม เพื่อที่จะเลื่อนออกไป ต่อไปก็จะยื้อเวลายาวที่สุด เพื่อที่จะมีการล็อบบี้ หรือมีเกมการเมืองอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นเทคนิคทางคดีของนายทักษิณ
ไฟไหม้วอด! ร้านค้า 118 ห้อง ศูนย์รวมสัตว์เลี้ยงตลาดจตุจักร สัตว์ตายเกลื่อน!
WWDC 2024 เปิดตัว "iOS 18" พร้อม Siri โฉมใหม่พลัง AI
บุกจับญาติ “ชาดา” คาโรงแรมกลางกรุง มั่วสุมเสพยา ยึดอาวุธปืน-กระสุน
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
