“ทักษิณ” จำใจเล่น “กลยุทธ์บ้านใหญ่” เพราะลงมือเองไม่ได้?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นักวิชาการวิเคราะห์ “กลยุทธ์บ้านใหญ่” เกิดจาก “ทักษิณ” ไม่มีทางเลือก เผย “บ้านน้ำเงิน” มาแรง ยิ่งไม่มีแสงส่องยิ่งโดดเด่น

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นการเลือกนายก อบจ.ปทุมธานี ทำให้หลายฝ่ายจับจ้องอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นหมุดอ้างอิงที่จะสะท้อนไปถึงกลยุทธ์ของ “ทักษิณ” ซึ่งช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาต้องใช้คำว่าเดินสายทัวร์งานบวชงานแต่ง ซึ่งคาดกันว่าก็เพื่อใช้ “กลยุทธ์บ้านใหญ่” หรือระบบบ้านใหญ่ตระกูลดังมารวมพลังกันเพื่อคว้าชัยชนะ

คำถามสำคัญคือ กลยุทธ์บ้านใหญ่นี้แลดูล้าสมัยเกินไปหรือไม่ในยุคดิจิทัลอย่างนี้ และทำไมทักษิณจึงเลือกเล่นเกมนี้

คอนเทนต์แนะนำ
ยันตรวจคุณสมบัติ "ลุงชาญ" แล้ว ชี้เป็นดุลยพินิจศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เย้ยไม่สมราคา! บ้านใหญ่เพื่อไทย อาจแพ้ทางยุทธศาสตร์บ้านใหญ่สีน้ำเงิน
ย้อนคดี “ชาญ พวงเพ็ชร์” ชนวนเหตุส่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่!

ทำไมทักษิณใช้กลยุทธ์บ้านใหญ่ ช่างภาพพีพีทีวี
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“กลยุทธ์บ้านใหญ่” ซับซ้อนกว่าที่หลายคนคิด

ผศ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นไว้ในรายการ เข้มข่าวเย็น ช่วง คุยข้ามช็อต Exclusive Talk ทางช่อง PPTV HD 36 ว่า ไม่ต้องพูดถึง จ.ปทุมธานี เพราะแม้แต่กรุงเทพฯ ยังมีระบบบ้านใหญ่ เช่น เขตบางขุนเทียน ยังมีตระกูลใหญ่อยู่

ผศ.พิชญ์มองว่า การมีบ้านใหญ่นั้น หากมองในภาพกว้าง บางระดับอาจจะยังแพ้อยู่ แต่ในระดับท้องถิ่น เช่น สภากรุงเทพ (สก.) ยังได้คะแนนเสียงอยู่ ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์เสียทีเดียว

อาจารย์เสริมว่า การพูดถึงคำว่า “บ้านใหญ่” ความจริงแล้วมีหลายระดับ มีบ้านย่อย ๆ และมีความซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด “ต่างจังหวัดมีกลไกไม่เหมือนกรุงเทพ บ้านใหญ่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบ ซึ่งมากกว่านั้นคือความเกาะเกี่ยวของตระกูลนั้น ๆ กับการเมืองหลายระดับ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ตำบล อำเภอ”

ผศ.พิชญ์ยกตัวอย่างว่า “เช่น อบจ.ปทุมธานี มีหน่วยการปกครองย่อยอีกถึง 65 ส่วน พวกนี้เขามีการเมืองย่อย ๆ อีก บ้านใหญ่ก็ไม่ได้ทั้งหมด มีคนที่ไม่ใช่บ้านใหญ่ พวกบ้านจัดสรร คนที่อินเทอร์เน็ตลงไปถึง ก็มี ... ปทุมธานีมี 65 หน่วยย่อย หน่วยไหนมันอยูกับใคร ขยับยังไง แต่ละครั้งไม่เหมือนกัน”

อาจารย์บอกว่า แม้แต่การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ผ่านมา ขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติ สว. หลุดมาได้อย่างไรที่ไม่ตรงวิชาชีพ ก็เพราะมันไม่ใช่ว่าการเมืองของประเทศคือบ้านใหญ่กับการเมือง ยังมีกลไกราชการ กลไกวัฒนธรรมอื่น ๆ รอบกรุงเทพบ้านจัดสรรเกิดขึ้นเท่าไรแล้วที่บ้านใหญ่เข้าไม่ถึง

“เราต้องไม่บอกว่าบ้านใหญ่เท่ากับทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นรอบที่แล้วก้าวไกลชนะหลายพื้นที่ได้ไง บ้านใหญ่ตายไปเยอะเหมือนกันในระดับหนึ่ง แต่การเลือกระดับท้องถิ่นก้าวไกลยังเจาะไม่เข้า” ผศ.พิชญ์กล่าว

ผศ.พิชญ์เผย กลยุทธ์บ้านใหญ่คือสนามที่ทักษิณออกไปเล่นได้ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผศ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“ทักษิณ” จำใจลงสนามกลยุทธ์บ้านใหญ่

ด้าน รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการ สวนดุสิตโพล เสริมว่า บ้านใหญ่เมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อนมีความชัดเจนมาก เพราะเรื่องของบารมี อิทธิพล เครือข่าย มันเยอะ แต่กลยุทธ์บ้านใหญ่ปัจจุบันที่ทักษิณรื้อฟื้นขึ้นมาคิดว่าไม่ได้เหมือนสมัยก่อนแล้ว

“บ้านใหญ่สมัยนั้นคุมได้หมด มีประเภทว่า ฝังรากลึกเลย เช่น จ.นครสวรรค์ บ้านใหญ่จริง ปักหลักปักฐาน ใครไม่มีเงินทองก็วิ่งไปบ้านใหญ่ รุ่นพ่อยังบอกเลยว่าต้องเลือกบ้านนี้นะ มันมีประวัติกันมา” รศ.ดร.สุขุมกล่าว

เขาเสริมว่า “ปัจจุบันบ้านใหญ่แบบประเดี๋ยวประด๋าว ได้แค่ช่วงหนึ่ง เดี๋ยวนี้พรรคใหญ่ต้องซื้อบ้านใหญ่ ถ้าต้องการเสียงบ้านใหญ่ต้องแลกเปลี่ยนกัน เป็นเรื่องเงินเข้ามา การทดแทนบุญคุณหายไปเลย”

รศ.ดร.สุขุมบอกว่า บ้านใหญ่มีอิทธิพลกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นหลัก ส่วนระดับชาติเป็นไปได้ยาก ควบคุมยาก ดังนั้น “ทักษิณบอกว่าจะพื้นคืนชีพบ้านใหญ่ทุกจังหวัดเพื่อกอบกู้แคะแนนเสียง เป็นไปได้ยาก”

นั่นทำให้เกิดประเด็นตามมาว่า ถ้ากลยุทธ์บ้านใหญ่ไม่น่าได้ผลในภาพรวมขนาดนั้น แล้วทำไมทักษิณจึงยอมลงมาเล่น

อาจารย์พิชญ์มองว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ทักษิณทำอะไรได้ไม่เต็มที่ เข้าพรรคนานก็ไม่ได้ ทำได้แค่บรรยาย นั่นทำให้ “บ้านใหญ่” คือสนามที่ทักษิณออกไปเล่นได้ เป็นการแสดงออกว่าไม่ทิ้งพรรค ไม่ทิ้งประชาชน

“กลายเป็นคุณทักษิณต้องไปงานบวชงานแต่ง ให้ประชาชนได้เจอ แต่คุณทักษิณที่เรารู้จักคือ ตาดูดาว เท้าติดดิน มีกรอบนโยบาย มีวิธีคิด แต่วันนี้เขาไม่มีพื้นที่เล่นตรงนี้ มีแต่บ้านใหญ่ ซึ่งพอเป็นอย่างนี้ เสียงจะไปถึงคนรุ่นใหม่ได้ไง” ผศ.พิชญ์กล่าว

เขาเสริมว่า ทักษิณอาจปลุกกระในต่างจังหวดได้ แต่คิดว่านี่ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ทักษิณเลือกเอง 100% แต่กลัวว่าหากลงมือทำอย่างอื่นอาจเป็นการขวางการทำงานจองนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โดยไม่ตั้งใจ

รศ.ดร.สุขุมเน้นว่า “ทักษิณนะ การใช้ข้อมูลเก่ง นำไปคิดต่อเก่ง แต่ลงมือไม่ได้ เปิดตัวเต็มที่ไม่ได้ ต้องให้เศรษฐาและแพทองธารทำแทน”

รศ.ดร.สุขุมมอง ทักษิณบอกว่าจะพื้นคืนชีพบ้านใหญ่ทุกจังหวัดเพื่อกอบกู้แคะแนนเสียง เป็นไปได้ยาก SuanDusitPoll
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการ สวนดุสิตโพล

“บ้านน้ำเงิน” เก่งกาจในความมืด ยิ่งแสงไม่ส่องยิ่งโดดเด่น

รศ.ดร.สุขุมบอกว่า ถ้าดูกรณีการ สว. ที่ผ่านมา บ้านน้ำเงินมาเต็มที่ มาเป็นกลุ่มก้อน ขยายเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ไม่ใช่แค่บุรีรัมย์ ภาคใต้ก็มี ซึ่งอิทธิพลที่เข้าไปล็อกแต่ละพื้นที่นี้จะบอกว่าฟลุคก็ไม่ใช่ วางแผนเหนือเพื่อไทยก็พูดได้ไม่เต็มปาก “คุณอนุทินฉลาด ไม่ต้องเปิดหน้า เมื่อไหร่ไม่มีแสง จะปฏิบัติการได้แม่นยำ”

อาจารย์สุขุมยกผลสำรวจความนิยมนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลล่าสุดเดือน มิ.ย. 2567 พบว่า นายกฯ เศรษฐายังเป็นอันดับ 1 แต่ที่รองลงมาคือ “อนุทิน”

“นายกฯ เศรษฐาได้จากความเป็นนายกฯ การลงพื้นที่ แต่บทบาทจริงที่ไปแทรกซึมในใจคน ต้องอย่ามองข้ามคุณอนุทิน มาเงียบ ๆ หลายโครงการหลายงานเข้าถึง เป็นตัวสอดแทรกที่มาแทบทุกเดือน” รศ.ดร.สุขุมบอก

ผลการสำรวจพบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 คะแนนความนิยมนายกฯ เศรฐาอยู่ที่ประมาณ 51% ส่วนอนุทินอยู่ที่ 25% พอ ๆ กับแพทองธาร แต่ต่อมาความนิยมของอนุทันเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จน ณ เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 30.53% โดยแบ่งคะแนนมาจากนายกฯ เศรษฐาที่ความนิยมลดลง

รศ.ดร.สุขุมบอกว่า “จุดอ่อนของนายกฯ เศรษฐาคือ แจกเงินดิจิทัลเมื่อไรจะได้ เวลาไปแจกแบบสอบถาม ชาวบ้านถามเรื่องนี้ตลอด เรื่องเศรษฐกิจเป็นตัวดึงคะแนนลง ทั้งที่นายกฯ เศรษฐมาจากภาคเอกชน คนคาดหวังว่า นายกฯ เป็นนักธุรกิจเศรษฐกิจพุ่งแน่”

เขาเสริมว่า “คุณอนุทินไม่หวือหวา แต่ไม่มัอะไรเสีย หลายครั้งเวลาออกมา เวลาพูดให้สัมภาษณ์อาจจะเหมือนไม่รู้เรื่อง แต่พอพูดอย่างนี้คนมองว่าเป็นคนนิ่งดี น่าจะลงมือทำอะไรได้ ดังนั้น คนโหยหาการกระทำ ทำให้เห็นสักอัน มันจะได้ อย่างแค่ขึ้นค่าจ้าง นายกฯ เศรษฐาทุบโต๊ะจะเอาให้ได้ก็ไม่ได้ นักธุรกิจคนอื่นไม่เอาด้วย”

รศ.พิชญ์เสริมว่า “ภูมิใจไทยถ้าไม่เอาแสงไปสาด เขาจะมา อย่าง สว. หรือ สส. คนไม่ได้มองมาก ปรากฏว่ามากันเยอะ ... เรามองไม่เห็น แต่คนในพื้นที่เห็น”

อนุทิน ยิ่งแสงไม่ส่องยิ่งโดดเด่น ช่างภาพพีพีทีวี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

เขาบอกอีกว่า คนไทยบางทีเจออะไรป่วนมากก็เป๋ได้ โดยเฉพาะชาวบ้านธรรมดา เมื่อก่อนมีแค่ทักษิณกับเศรษฐา นายกก็ดูขยัน แต่ผลงานมันไม่ออกเป็นรูปธรรม ชาวบ้านต้องการว่าสิ่งที่หาเสียงไว้เมื่อไรจะได้ เมื่อไม่มี และเศรษฐกิจก็แย่ คนจึงอาจมองว่า อนุทินดูเงียบดี เอาอนุทินดีกว่าหรือไม่

แต่ความท้าทายคือ สัปดาห์นี้อนุทินต้องรับแรงแสงที่สาดมาหลายทิศทาง ทั้งเรื่อง สว. ก่อนหน้านี้ รวมถึงเรื่องนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่ถูกกฤษฎีกาพิจารณาว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ. เพราะมีคดีเก่า

“กระทรวงมหาดไทยต้องฟันเรื่องลุงชาญ เพราะกฤษฎีกามีความเห็นมาแล้ว มหาดไทยต้องตอบ ถ้าขัดกับกฤษฎีกา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐบาล เกิดผลเสีย แต่ถ้าไม่ขัดก็เกิดเสีย เพราะเชียร์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส” อาจารย์พิชญ์กล่าว

เขาเสริมว่า “เป็นสัปดาห์มาหลายแสง แกไม่ชอบแสง แกชอบกินข้าวร้องเพลง ไม่เป็นศัตรูกับใคร เว้นแต่หลักอุดมการณ์ ตอนนี้เหมือนทุกขลาภ แกไม่อยากออกหน้า ทั้งที่จริงเสียงมีน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้พอได้ สว. ที่เชื่อมโยงกับภูมิใจไทย ทำให้แกอาจเป็นตัวเลือกของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในแง่การโหวตมติต่าง ๆ”

รศ.พิชญ์เห็นด้วยว่า ชาวบ้านกล้าลอง ไม่ได้ก็ว่ากันไป ไม่มีใครไม่ยอมรับว่าเศรษฐาทำงานหนัก แค่ตั้งคำถามว่าเมื่อไรจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นเศรษฐกับเพื่อไทยต้องคิด “ไม่มีใครสงสัยว่าเขาทำงานหนักขนาดไหน เพื่อไทยทำงานหนักขนาดไหน แต่ถ้าสิ่งที่หวังไม่ได้ เขาจะทนหรือ เขาก็หาตัวเลือก”

และปฏิเสธไม่ได้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล อาจเป็นตัวเลือกนั้นในใจของใครหลายคน

วิเคราะห์บอล ! ยูโร 2024 ออสเตรีย พบ ตุรกี 2 ก.ค.67

นักวิทยาศาสตร์พบ “มอสส์ทะเลทราย” สามารถมีชีวิตรอดบนดาวอังคารได้

ไทยจ่อเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” ฝนเพิ่มเล็กน้อย แต่อุณหภูมิยังคงสูง

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ