ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ครึกโครมที่สุดในนาทีนี้ หนีไม่พ้นศึก “เฉลิม อยู่บำรุง VS ทักษิณ ชินวัตร” ที่บาดหมางระดับที่ชื่อยังไม่อาจได้ยิน จนเรียกได้ว่าเป็นศึกระดับช้างชนช้าง เสือฟัดเสือ ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมเกมกระดานการเมืองไทยได้
เรื่องนี้มีหลายประเด็นที่ต้องวิเคราะห์ ทั้งเหตุผลเบื้องหลังที่พรรคเพื่อไทยเลือกวิธีเด็ดขาดในการจัดการกับบ้านอยู่บำรุง รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทยและตัว ร.ต.อ.เฉลิม เอง
เรื่องที่ไม่ควรเกิดหรือเรื่องที่ต้องทำ?
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ เข้มข่าวเย็น ช่วง Exclusive Talk ทางช่อง PPTV HD 36 ว่า กรณี ร.ต.อ.เฉลิมและนายวันนั้น เกิดจากการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “ไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมือง”
“พรรคการเมืองเป็นการหลอมรวมของคนที่มีทัศนคติเหมือนกัน ไม่ใช่ลักษณะการปกครอง นี่กำลังเข้าใจผิดว่าพรรคการเมืองใช้วิธีปกครอง หลังคุณเฉลิมแถลงสิ่งแรกที่ทำคือการดีดออกจากกลุ่มไลน์ นี่คือไม่เข้าใจการเมือง ใช้พระเดชไม่ได้ ถ้าคุณแพทองธารไม่ได้เป็นลูกคุณทักษิณ ถามว่าใครจะยอมให้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะหัวหน้าพรรคต้องใช้พระคุณมากกว่าพระเดช” นายจตุพรกล่าว
เขาเสริมว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับพ่อลูกอยู่บำรุงไม่ควรเกิด เพราะแม้จะไปปรากฏตัวข้าง “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หลังศึกเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ปทุมธานี แต่ก็เป็นการไปหลังปิดหีบแล้ว ไม่สามารถห้ามความสัมพันธ์ของคนได้ เพราะทุกวันนี้คนต่างพรรครู้จักกันก็มีอยู่มาก
นายจตุพรยังถามว่า แล้วกรณีพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ยิ่งผิดหนักกว่าหรือ
รศ.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เห็นต่าง โดยบอกว่า พรรคเพื่อไทยยุคนี้กำลังเจอศึก 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือพรรคก้าวไกลที่เป็นคู่แข่ง อีกด้านคือพรรคสีน้ำเงินที่แผ่อิทธิพลมาหายใจรดต้นคอ
“วันนี้นายน้อยพรรคเพื่อไทยกำลังหาจุดพอดีระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ซึ่งจุดพอดีนั้นต้องเซตกฎกติกาก่อน เมื่อก่อนอาจใช้ความสัมพันธ์ แต่วันนี้สังคมใหม่แล้ว กฎกติกาต้องชัด พรรคต้องมีกฎชัด ไม่อย่างนั้นคนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากเข้า เมื่อคุณเฉลิมยังอยู่ในยุคเก่า ก็อยู่ในกฎไม่ได้ เพราะมองเรื่องน้ำใจส่วนตัว” อาจารย์กล่าว
รศ.ธนพรบอกว่า สิ่งที่เกิดกับบ้านอยู่บำรุงเป็นความจำเป็น เพราะพรรคเพื่อไทยต้องรักษาสถานภาพการเป็นพรรคนำในปีกอนุรักษ์นิยม ต้องไม่แพ้พรรคก้าวไกล ซึ่งถ้าไม่ปรับเปลี่ยนพรรคตั้งแต่วันนี้จะเกิดช่องว่างห่าง ประกอบกับวุฒิสภา (สว.) ตอนนี้กลายเป็น “เนวินสภา” ออร่าของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หายใจรดต้นคอ นายใหญ่ต้องไปหาถึงปากช่อง นายน้อยถึงต้องดีดออกจากกลุ่มไลน์เลย เพื่อสำแดงอำนาจ
รศ.ธนพรบอกว่า “ถ้าวันหนึ่งคุณเศรษฐาไม่อยู่ นายน้อยแพทองธารขึ้นแทน วันนี้เพื่อไทยเหมือนธุรกิจครอบครัว บริษัทหนึ่งที่ลูกสาวกำลังรับช่วงต่อจากพ่อ ปรากฏลูกน้องพ่ออยู่เต็มไปหมด คนรุ่นใหม่ก็เข้ามา ถ้าไม่สร้างกฎเกณฑ์อย่างนี้ บริษัทจะรอดหรือ”
นักวิเคราะห์การเมืองทั้งสองท่านยังสรุปไว้ง่าย ๆ ว่า สถานการณ์ตอนนี้ มีอยู่ 3 โมเดลที่ ร.ต.อ.เฉลิมสามารถเลือกได้ ซึ่งแต่ละแบบอาจมีผลลัพธ์และผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยที่แตกต่างกันออกไป
โมเดลที่ 1 : โมเดลเสนาะ
อาจารย์ธนพรเสนอโมเดลแรก คือทำตามอย่าง นายเสนาะ เทียนทอง อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2549 ขึ้นเวทีปราศรัยฟาดนายทักษิณ
อาจารย์ธนพรบอกว่า ร.ต.อ.เฉลิมลาออกจากพรรคได้เลย จะไปอาลัยตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำไม ชื่อเสียงใหญ่กว่าตำแหน่งเยอะ
“ชื่อท่านใหญ่กว่าตำแหน่ง ออกไปเลยแบบคุณเสนาะปี ‘49 ขึ้นไปด่านายใหญ่ ... แล้วสุดท้ายลูกชายเขา คุณสรวงศ์ เทียนทอง ก็ยังเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้อยู่” รศ.ธนพรบอก
โมเดลที่ 2 : โมเดลจตุพร
โมเดลถัดมาที่อาจารย์ธนพรเสนอคือ ทำแบบนายจตุพร คือออกมาเลย ไม่ใช่แค่ออกมาพรรค แต่ออกมาทำสื่อของตัวเอง แล้วให้ข้อมูลลึก ๆ วงในอย่างที่นายจตุพรทำ ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากให้สังคมเข้าใจในหลายเรือง
“ข้อมูลที่คุณจตุพรมอบให้สังคมมีส่วนทำให้ในการเลือกตั้งปี ‘66 ที่ผ่านมาประชาชนมีความรู้มากขึ้นในการตัดสินใจ” รศ.ธนพรกล่าว
โมเดลที่ 3 : โมเดลเสือในเพื่อไทย
โมเดลนี้นายจตุพรและ รศ.ธนพรมีจุดเห็นต่างกันเล็กน้อย แต่ยังให้ชื่อว่าโมเดลเสือได้เหมือนกัน คือทางเลือกที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะอยู่ในเพื่อไทยต่อ
รศ.ธนพรบอกว่า เสือที่ชื่อ เฉลิม อยู่บำรุง ในอดีตคือเสือโคร่ง แต่วันนี้คือเสือป่าดงใหญ่ หมดฤทธิ์เดชแล้ว ที่ น.ส.แพทองธารยังให้อยู่ในพรรคเพื่อไทยถือเป็นการให้เกียรติแล้ว
อาจารย์กล่าวว่า เสืออย่างนายวันเลือกเข้าป่าพลังประชารัฐ ถือเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเมื่อต้องการสร้างพื้นที่ของตัวเอง ก็ต้องพิสูจน์ความสามารถกับเสือตัวอื่น เพราะในป่ามีเสือหลายตัว มีเสือเจ้าถิ่น แต่เสืออย่าง ร.ต.อ.เฉลิมถ้าจะเลือกอยู่ป่าเพื่อไทยต่อ หนทางรอดมีน้อย
“ถ้าคุณเฉลิมจะใช้โมเดลเสือ ขอให้ไปอ่านข่าว ผลชันสูตรร่างเสือป่าดงใหญ่ ปอดติดเชื้อ บาดเจ็บภายใน ไม่มีเรี่ยวแรงล่าเหยื่อ เขี้ยวเล็บกร่อนผุพัง ล่าวัวชาวบ้านยังฆ่าไม่ได้” อาจารย์ธนพรกล่าว และแนะว่า ถ้า ร.ต.อ.เฉลิมไม่อยากหายใจรวยรินเหมือนเสือป่าดงใหญ่ ให้เลือก 2 โมเดลก่อนหน้านี้
ขณะที่นายจตุพรมองว่า ถ้ามอง ร.ต.อ.เฉลิมว่าเป้นเสือที่แก่เกินแกง ก็ต้องมองนายทักษิณที่อายุไล่เลี่ยกันด้วย ซึ่งถ้านายทักษิณนังมีฤทธิ์ ทำไม ร.ต.อ.เฉลิมจะมีฤทธิ์บ้างไม่ได้
“เขาอึดอัดนานแล้ว ไม่เห็นด้วยตั้งแต่เลือกคุณเศรษฐาเป็นนายกฯ วันโหวตก็ไม่ไปโหวต ... ที่ผ่านมาเขาไม่สำแดงทำให้เหมือนไม่แข็งแรง แต่พอแถลงเมื่อวาน (24 ก.ค.) กลับมาแข็งแรงเลย เสือก็ยังเป็นเสือวันยังค่ำ ถ้าคิดว่าคุณเฉลิมสิ้นลาย ก็ต้องมองว่าคุณทักษิณก็ยังมีเหมือนกัน คุณเฉลิมเคยมีอำนาจมาก่อนคุณทักด้วยซ้ำ” นายจตุพรกล่าว และยังแซวด้วยว่า นายทักษิณเหมือนเสือเอ็นเปื่อยยุ่ย
วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนบอกว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเอา ร.ต.อ.เฉลิมออก ก็ควรเอานายทักษิณออกไปด้วย เพราะถ้าใช้เรื่องอายุและอาการป่วยมาเป็นเหตุผล นายทักษิณหนักว่า ร.ต.อ.เฉลิม
นายจตุพรกล่าวว่า “ระดับคุณเฉลิม ดูเหมือนเก่าแล้ว แต่เขาเวลาจะลงมือ เขาทำการบ้านดีที่สุด ฟาดเลย ถ้าไม่มีอะไรอาจทำตัวเหมือนไม่มีฤทธิ์เดช เมื่อวานยกแรกมาแล้ว ในสภาเขาอาจจะยืนสวนเลย ... พรรคที่ไม่มีจุดยืนจะไปรักษาสัจจอะไรกับคนพรรค์อย่างนี้ คุณเฉลิมไปฟาดเพื่อไทยในนามเพื่อไทยเลย อยู่กันไปอย่างนั้น”
เขาย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิมรอมานานกว่าจะพูด แสดงว่าข้อมูลเขาเต็มแน่น อาจดูเหมือนไม่คล่อง แต่ท่วงทำนองลีลายังครบถ้วน ถ้านายทักษิณไหว ทำไม ร.ต.อ.เฉลิมจะไม่ไหว
แม้ความเห็นในโมเดลเสือจะไม่ตรงกัน แต่ รศ.ธนพรย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิมชัยต้องเลือกแล้วว่าจะใช้โมเดลไหน และหากเลือกโมเดลเสือ สุดท้ายจะกลายเป็นเสือแบบไหน
เช็กโปรแกรมกีฬาโอลิมปิก 2024 เวลาแข่งขัน Olympic 2024 วันที่ 25 ก.ค.67
เช็ก 10 เส้นทางใหม่ ขสมก. เริ่มให้บริการ 25 ก.ค.นี้
ร้านค้า 2 ล้านราย เข้าระบบดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ภายใน 2 เดือน