เปิดหนังสือรัฐบาลตอบกลับยูเอ็นเหตุกังวลคดียุบก้าวไกล!

จากกรณีวันที่ 7 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ รวมทั้งนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นั้น

โดยล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจก่อนศาลอ่านคำวินิจฉัย โดยไอลอว์ หรือ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ได้เผยแพร่ หนังสือตอบผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติของรัฐบาลเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

ไอลอว์

ซึ่งการตอบกลับครั้งนี้ เนื่องจากผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ กังวล เรื่องการยุบพรรคก้าวไกล และการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านและเป็นพรรคที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเยอะที่สุด อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบอบประชาธิปไตย และยังทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อกระบวนการเลือกตั้งของประเทศไทย โดยขอให้ประเทศไทยชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 60 วัน

เช็กโปรแกรมกีฬาโอลิมปิก 2024 เวลาแข่งขัน Olympic 2024 วันที่ 6 ส.ค.67

เปิดประวัติ "บี" จันทร์แจ่ม นักมวยสากลหญิงไทย ในศึกปารีสเกมส์ 2024

ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา

ส่วนประเด็นที่ รัฐบาลไทย ตอบกลับผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ มีใจความสำคัญ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยคดีก่อนหน้า ว่าการหาเสียงโดยสัญญาว่าจะมีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกล ละเมิดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ที่ระบุว่า "บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้"

โดยรัฐบาลไทย รับรองสิทธิพลเมืองไว้หลายประการอยู่แล้ว รวมถึงสิทธิถกเถียงในแง่มุมหลากหลายของประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ตราบใดที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่สิทธิดังกล่าว มีข้อจำกัด เรื่อง การเคารพในสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อการรักษาความมั่นคงของชาติ และรักษาความสงบเรียบร้อย

ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้เพียงแค่ปกป้องพระมหากษัตริย์ แบบเดียวกับที่ปกป้องประชาชนทั่วไปในกฎหมายหมิ่นประมาท แต่ยังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะที่เป็นเสาหลักของชาติ และเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ จึงมีบทลงโทษที่รุนแรงหลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว

ซึ่งรัฐบาลไทย ขอยืนยันว่า คดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และรัดกุม เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็จะมีคณะกรรมการพิจารณา เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ร่วมกันพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิด มาตรา 112 หรือไม่ แต่ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะมีอัยการเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อีกชั้นหนึ่งอยู่ดี

ส่วนสถานการณ์เสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมรวมกลุ่มอย่างสงบของประเทศไทย รัฐบาลไทยยืนยันรัฐธรรมนูญ 2560 รับรองสิทธิเสรีภาพ ทั้งเสรีภาพในการแสดงออกและการรวมชุมนุมรวมกลุ่มกันอย่างสงบ และ เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง ไว้แล้ว

สำหรับแผนรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของ นักการเมือง ฝ่ายค้าน และบุคคลที่วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ รัฐบาลใช้หลักการ การปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วย สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายเกี่ยวกับคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตามแนวทางที่ได้ชี้แจงก่อนหน้านี้