กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาที่ได้เดินทางไปอาคารชินวัตร 3 เพื่อสังเกตการณ์ประชุมของพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดคำถามว่าด้วยบทบาทของนายทักษิณซึ่งปฏิเสธไม่ได้ที่จะถูกมองว่าครอบงำรัฐบาล
โดยในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนช่วงหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่มีครอบงำ มีแต่ครอบครอง เพราะเป็นลูกสาวของผม” นั้น
ล่าสุดได้มีหลายคนออกมาแสดงความกังวลถึงท่าทีและคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณในกรณีดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า "ทักษิณให้สัมภาษณ์ไม่ได้ครอบงำรัฐบาล แต่ครอบครอง หมายความถึง ครอบงำด้วย" พร้อมแฮชแท็กว่า #ระวังนะครับคำพูดเป็นนายอาจถูกร้องได้
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยสงสัย “ฝีดาษวานร clade 1” ย้ำไทยมีระบบป้องกันรัดกุม
"ภูมิธรรม" ยืนยัน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังเดินหน้าตามนั้น
ประวัติ “อุดม สิทธิวิรัชธรรม” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนั้นทนายเดชา ยังระบุเพิ่มเติมว่า "คุณทักษิณเป็นคนชอบให้สัมภาษณ์เปิดทีวีช่องไหนเห็นแต่หน้าคุณทักษิณระวังคำพูดของคุณทักษิณจะกลายเป็นการครอบงำคุณอุ๊งอิ๊งซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเพื่อไทย นักร้องอาจจะรวบรวมพยานหลักฐานและไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ในอนาคต อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบหรืออาจจะทำให้อุ๊งอิ๊งค์หลุดจากความเป็นนายกฯ ได้นะครับอย่าประมาทนะครับ555"
เช่นเดียวกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า รัฐบาลนารีขี่ม้าขาวอาจสั้นกว่าที่คิด หากมีวิธีการบริหารงานแบบนี้
1. พ่อชอบพูดก่อนลูก ทำให้คนทั่วไปคิดว่า ลูกไม่มีความสามารถ ต้องมีพ่อที่รอบจัด ชาญฉลาด มาคอยกำกับชี้นำ 2. ตัดสินใจบนความชอบไม่ชอบของส่วนตัว เอาความรักความแค้นในอดีตมานำเหตุผล ตัดสินใจว่าใครควรเป็นรัฐมนตรี มากกว่าความสามารถ
3. ส่งเสริมให้คนกบฏต่อพรรค ใครรวม สส.ได้มาก ก็ปูนบำเหน็จ แทนที่จะส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง เคารพมติพรรค
4. นโยบายแปรผันตามใจฉัน วันหนึ่งบอกเศรษฐกิจไม่ดีต้องแจกเงิน อีกวันก็บอกเศรษฐกิจไม่ดี ไม่ควรแจกเงิน ในสายตาเห็นประชาชนกินหญ้า
5. คิดเป็นก็อยู่ยาว หลงตัวเอง ก็กลับไปวังวนเดิมไม่รู้จบครับ