"ทักษิณ" ลงพื้นที่เชียงราย บอกประชาชน "นายกฯอิ๊งค์" ฝากเยี่ยมเยียน

 แต่วันนี้ 27 ส.ค. 2567 นายทักษิณ เดินทางไปช้ากว่ากำหนดการ เพราะเครื่องบินมีปัญหา ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำให้ล่าช้าไป 2 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านที่มารอบางส่วน ต้องกลับก่อนเพื่อไปเฝ้าระวังระดับน้ำ

นายทักษิณ ขอโทษประชาชน ที่มารอต้อนรับ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเทิง โดยบอกว่าเครื่องบินที่นั่งมาเกิดขัดข้อง เลย ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำให้ล่าช้าไป 2 ชั่วโมง    

โดยเดินทางมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเทิง เวลา 13.30 น. ได้พุดคุยกับชาวบ้าน พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบกว่า 500 คน 

รายการเข้มข่าวค่ำ

ท่ามกลางบรรยากาศที่ชาวบ้านต่างร่ำไห้และเข้ามาสวมกอดอดีตนายกรัฐมนตรีด้วยความปลาบปลื้ม

 ซึ่งนายทักษิณ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ด้วยภาษาคำเมือง "ขอหื้อป้อแม่ทุกคน ดูแลตัวเองหื้อดี เรื่องไข้หวัด อากาศเปลี่ยน ขอบคุณนะครับ" จากนั้นประชาชนได้ส่งเสียงเชียร์ปรบมือดังสนั่น

นอกจากนั้นนายทักษิณ ได้พูดผ่านไมโครโฟนไปถึงประชาชนที่ไปต้อนรับว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฝากให้มาเยี่ยมเยียนประชาชนด้วย และ วันหลังจะมาเอง 

ประกาศแล้ว! เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว ข้าราชการ-ลูกจ้างประจำ

JIB แถลงขอโทษเหตุข้อมูลลูกค้ารั่วไหล ชี้สาเหตุโดนแฮ็กข้อมูลบริษัท

กางไทม์ไลน์ จัดตั้ง ครม.แพทองธาร ไม่เกินกลางเดือน ก.ย.

จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในตำบลตับเต่า อำเภอเทิง โดยได้ขอโทษชาวบ้านที่มาช้าเพราะเครื่องบินเสีย และบอกว่า นายกฯแพทองธาร ฝากความห่วงใยมาด้วย สำหรับการเยียวยาผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่  ส่วนรัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นตนจึงมาหาพี่น้อง และขอบคุณที่มาต้อนรับด้วย

นายทักษิณ ยังได้เข้าพูดคุยกับชาวบ้าน ว่าตนอายุมาก แก่ไปแล้วหรือไม่ เพราะมา อ.เทิง ครั้งล่าสุดคือปี 2543 เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จึงไม่ได้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันถนนหนทางดีขึ้นเดินทางไม่นานก็ถึงแล้ว รวมทั้งถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมพร้อมแจ้งว่ามีเรื่องอะไรก็ขอให้แจ้ง สส.คนปัจจุบัน ส่วนตัวเองก็ขอให้กำลังใจเพราะอีกไม่นานรัฐบาลก็จะลงมาช่วยแล้ว

ตนไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แต่พี่น้องก็ยังไม่ลืม ดังนั้นตนก็ต้องตอบแทนบุญคุณพี่น้องประชาชน 

นอกจากนั้น นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ไขปัญหาน้ำว่า ประเทศไทยมีปัญหาซ้ำซาก ทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง การแก้ไขปัญหาจะต้องดำเนินการกันทั้งระบบ อย่างน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ ต้องมีอ่างเก็บน้ำ ต้องมีแก้มลิง หรือฝายชะลอน้ำ ที่จะช่วยให้น้ำไม่ท่วมหนัก

นอกจากจะต้องจัดการภายในประเทศแล้ว กับประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องมีคุยกัน เพื่อจัดการน้ำทั้งระบบ อย่างเรื่องแม่น้ำโขงก็ต้องคุยกับทางจีนว่า ควรจะมีมาตรการร่วมกันอย่างไร เพื่อไม่ให้การปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ตอนล่าง การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ แม้จะต้องใช้วงเงินงบประมาณสูง แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง

  ส่วนปัญหาที่มีการมองกันว่าน้ำท่วมปีนี้ อาจจะกลายเป็นน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 นั้น นายทักษิณ บอกว่า นายกฯ อิ๊งค์ เล่าให้ฟังว่า คณะรัฐมนตรีที่รักษาการอยู่ ได้พูดคุยกับกรมชลประทานแล้ว ในเรื่องของการพร่องน้ำในเขื่อนต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับน้ำจากทางเหนือ ซึ่งการพร่องน้ำเตรียมไว้ก่อนเช่นนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 2554 ที่ไม่ได้พร่องน้ำไว้ก่อน ปีนี้คนกรุงเทพฯจึงสบายใจได้ว่า จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน .