“พิธา” เมินคำเย้ย “ทักษิณ” ลั่นเลือกตั้งล่าสุดก้าวไกล-ไทยสร้างไทย คะแนนชนะ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“พิธา” ถึงอุดรฯลุยหาเสียงชิงเก้าอี้ นายกฯอบจ. เมินคำเย้ย “ทักษิณ” ตอกกับมีแต่เผด็จการที่กลัวแพ้เลือกตั้ง ลั่นเลือกตั้งล่าสุดก้าวไกล-ไทยสร้างไทย ชนะเพื่อไทย

นายพิธา​ ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ อดีตหัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง​ นายคณิศร​ ขุริรัง​ ผู้สมัครจากพรรคประชาชน​ ชิงเก้าอี้นายกอบจ.อุดร​ เดินทางถึงจังหวัดอุดรธานี​ หลังกลับมาจากสหรัฐอเมริกา​ 

โดยนายพิธา​ กล่าวว่า​ เดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้​ตั้งใจมาช่วยหาเสียง​ เพื่อให้คนอุดรทราบว่า​จะมีการเลือกตั้งนายกฯอบจ.อุดร​ โดยประเด็นหลักที่อยากเชิญชวนให้มาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ​ เพราะคนทราบว่าอุดรคือเมืองหลวงของประชาธิปไตย แต่การใช้สิทธิ์อาจจะน้อย​ เพราะพี่น้องชาวอุดรธานี ไปทำงานต่างประเทศเยอะ​

คอนเทนต์แนะนำ
มัดรวมวลีเด็ด! “ทักษิณ” ฟาดเดือดทุกดอก แล้วบอกกลับมาเลี้ยงหลาน!
"ธนาธร" โต้ทักษิณ รู้ดีสุดเหตุ "ก้าวไกล" ไม่ร่วมรัฐบาล
"ทักษิณ" โชว์แพ็กเกจรัฐบาล ค่าแรง 400 บาท - ผ่อนบ้าน 4,000 บาท

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่างภาพพีพีทีวี
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ส่วนที่บางพรรคตีกินว่​าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงนั้น นายพิธา​ กล่าวว่า​ ถ้าดูตัวเลขจากการเลือกตั้งปี 2566  พรรคเพื่อไทยมาอันดับหนึ่ง 300,000 แสนกว่าคะแนน​ พรรคก้าวไกลมาอันดับสอง 200,000 แสนกว่าบาท  พรรคไทยสร้างไทยอันดับ​สาม 100,000 กว่าคะแนน  ถ้า 2 กับ 3 รวมกัน ก็ชนะพรรคเพื่อไทย และตนก็ใช้คำว่าเมืองหลวงประชาธิปไตย  ไม่ใช่เมืองหลวงเสื้อแดง เพราะตัวเลขก็ฟ้องมาอย่างนั้น​ 

บรรยากาศ "Miss Universe 2024" รอบ "พรีลิมฯ - ชุดประจำชาติ" เชียร์ "โอปอล สุชาตา" คว้ามงสาม!

พิกัดเว็บไซต์ “ลอยกระทงออนไลน์ 2567” ขอขมาพระแม่คงคาได้แค่ปลายนิ้ว

เฟส 2! รัฐเตรียมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ "กลุ่มผู้สูงวัย"

ส่วนที่นายทักษิณ​ ปราศรัย​เย้ยว่า​ นายพิธากลัวแพ้จึงต้องบินกลับมาจากสหรัฐนั้น​ นายพิธา​ กล่าวว่า​ เรื่องนี้มี 2 ประเด็น เรื่องกลัวแพ้ก็แพ้มาเยอะ ชนะมาก็แยะ​ อุดรเขต 1 ตอนปี 2562 ตอนเป็นอนาคตใหม่ก็แพ้ พอปี 2566​ เป็นพรรคก้าวไกลก็ชนะ​ ผู้สมัครนายกอบจ.คนปัจจุบันของพรรคเพื่อไทย​ เพราะฉะนั้นมีแต่เผด็จการเท่านั้นที่กลัวแพ้การเลือกตั้ง​

"การเป็นนักการเมืองและการเป็นอดีตนักการเมือง ก็มีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา อย่างกรณีที่ตนกลับมาจากอเมริกาที่เคยแพ้ก็ชนะ ที่เคยชนะก็กลับมาแพ้ นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องแพ้​ แพ้เยอะมาแล้ว​ แต่การเลือกตั้งครั้งสุดท้ายผมก็ชนะ"

ส่วนที่มีการแซวว่าติดป้ายหาเสียง ผู้สมัครคู่ทั้งทิมทั้งเท้ง​ แสดงว่า​ คุณเท้งไม่หล่อเท่าคุณทิม​ นายพิธา​ กล่าวว่า​ เท่าที่เช็คจากทีมงานของผู้สมัคร อัตราส่วนการติดป้ายของหมายเลข 1 กับหมายเลข 2 น่าจะ 20 ต่อ​ 1 เพราะฉะนั้นเรื่องความประหยัด พรรคตนในตอนที่เป็นอดีตพรรคก้าวไกล และจนมาเป็นพรรคประชาชนไม่แพ้พรรคไหนแน่นอน และแคมเปญนี้เป็นแคมเปญลูกครึ่ง​ เพราะหาเสียงกับนายคณิศร​ ตั้งแต่ยังเป็นพรรคก้าวไกล​ จึงมีการทำป้าย แต่พอโดนยุบพรรคก็กลายเป็นของพรรคประชาชน​ กลายเป็นลูกครึ่งมีทั้งรูปคู่กับตนและรูปคู่กับเท้ง​ ก็แค่นั้น​

ส่วนการลงพื้นที่ด้วยตัวเองของนายทักษิณ ทำให้มีความกังวลหรือไม่นั้น นายพิธากล่าวว่าไม่รู้สึกกังวล รู้สึกดี เพราะทำให้มีสีสัน ทำให้ประชาชนมีความสนใจ เพราะในการเลือกตั้งระดับชาติก็มีกติกาหนึ่ง มีเลือกตั้งล่วงหน้า มีเลือกตั้งข้ามเขต ประชาชนให้ความสนใจ  แต่เมื่อเป็นการเลือกตั้ง สส.หรือ อบจ.แค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็อาจจะไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์จาก กกต.เท่าที่ควร ถ้ามีการแข่งขันของเบอร์ 1 เบอร์ 2 มีการลงพื้นที่กันเยอะ ประชันวิสัยทัศน์กันเยอะก็ทำให้ประชาชนสนใจ  และหวังว่าการจะทำให้การใช้สิทธิ์ครั้งนี้สูงกว่า 56% เพราะครั้งที่แล้วก็เกินครึ่งมานิดเดียว

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่างภาพพีพีทีวี
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลุยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี

เมื่อถามว่าสนามเลือกตั้ง อบจ.เป็นโจทย์ยากหรือไม่เพราะต้องทลายกำแพงบ้านใหญ่ ที่เดิมเป็นสีแดงเกือบทั้งจังหวัด นายพิธากล่าวว่าเป็นโจทย์ยากที่บริหารได้ อย่างน้อยเราทราบว่าในการเลือกตั้ง ปี 2566 คนมาใช้สิทธิ์ 76% พอเลือกตั้ง อบจ.เหลือแค่ 60% เพราะข้ามเขตไม่ได้ เลือกตั้งล่วงหน้ทไม่ได้  จึงต้องทำนโยบายในพื้นที่ให้จับต้องได้ มีความชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกัน พอตนกลับจากสหรัฐอเมริกา เห็นเรื่องการเลือกตั้งก็มองว่าน่าจะมีการเลือกตั้งด้วยจดหมายแบบ เมลล์อิน เหมือนเลือกตั้งสหรัฐฯจะได้ทำให้การเลือกตั้งง่ายขึ้น  มีประสิทธืภาพมากขึ้น และตรงกับเจตจำนงค์ของประชาชนมากขึ้น  ต้องแก้ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งระดับชาติแต่รวมถึงเลือกตั้งอื่นๆ  น่าจะเป็นประโยชน์มากขึ้น

เมื่อถามว่า หากพรรคประชาชนจะชนะ จะมาจากปัจจัยใดนั้น นายพิธา​ กล่าวว่า​ มาจากหลายเรื่องทั้งตัวผู้สมัครและคู่แข่งก็มีความสำคัญ รวมถึงนโยบายตรงใจประชาชนแค่ไหน แต่ตนยังยืนยันในความสำคัญของผู้มาใช้สิทธิ์ หากเกิน 70% ก็ทำให้เกิดความชอบธรรมและมีโอกาสชนะมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันถ้าใช้สิทธิ์น้อยก็น่าจะยาก

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ  ประกาศว่า​ สมัยหน้าจะคว้า เก้าอี้ สส. ไม่น้อยกว่า 200 ถือเป็นการข่มขวัญหรือไม่นั้น  นายพิธา​ กล่าวว่า​ ก็เหมือนตอนนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดเรื่องแลนด์สไลด์ ก็แค่นั้น พอถึงเวลา ผลลัพธ์หลังเลือกตั้งประชาชนเป็นคนตัดสิน วางแผนได้ ทางตนก็มี เคยวางไว้ตอนเป็นอดีตก้าวไกล ซึ่งเชื่อว่านายณัฐพงษ์ ก็คงวางแผนของตัวเองเช่นกัน ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน

อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายนายพิธา​ ยังอ้อนคนอุดร ขอคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร โดยระบุว่า "ฮักหลายๆ ไม่ว่าจะเป็นประเพณีไทยสำคัญขนาดไหน เช่นตอนสงกรานต์ ผมก็อยู่อุดร ลอยกระทงผมก็ยังอยู่ แสดงให้เห็นความผู้พันธ์ที่มีต่อพี่น้องชาวอุดร  หวังว่าศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้จะมีโอกาสมาพบปะกันให้หายคิดถึง"

​อย่างไรก็ตาม​ เย็นวันนี้นายพิธา​ ได้ยกเลิกภารกิจลอยกระทงร่วมกับคนอุดร​ เปลี่ยนเป็นเดินพบประชาชนบริเวณถนนคนเดินแทน​ เนื่องจากกังวลว่า เกรงจะผิดกฎหมายเลือกตั้งใน​ เรื่องห้ามจัดมหรสพ

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ