ตลอด 2 วันที่ไปจังหวัดอุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยไปแล้ว 3 ครั้ง เมื่อวานนี้ 1 ครั้ง ที่วัดศรีนคราราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และวันนี้ปราศรัย 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ขึ้นเวที 09.30น. ที่ตลาดนัด 4 ธันวา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และครั้งที่ 2 ขึ้นเวทีเวลาประมาณ 17.30น. ที่ผ่านมา
เรียกได้ว่าการมาจังหวัดอุดรธานีครั้งนี้ นายทักษิณ มีวลีเด็ดมากมาย ไม่ทิ้งลายเมื่อ17-18 ปีก่อน วันนี้ทีมข่าวประมวลวลีเด็ด ของนายทักษิณมาไว้แล้ว
เวทีที่ 1 วัดศรีนคราราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
เริ่มกันที่การขึ้นปราศรัยเมื่อวาน ที่วัดศรีนคราราม ซึ่งถือเป็นเวทีปราศรัยแรกในรอบ 18 ปี นายทักษิณ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า " ยังไม่หายตื่นเต้นเลย มันยังใหม่อยู่ ต้องเริ่มฝึกใหม่" แต่ดูลีลาแล้ว ไม่น่าจะตื่นเต้น วลีเด็ดแรก
ขึ้นเวทีมานายทักษิณก็พูดทักทายมวลชนเลยว่า "คิดฮอด พี่น้องคนอุดร หลายเด้อ" 18 ปีที่ไม่อยู่ "รวยขึ้นหรือยัง เหลือควายกี่ตัว”
ประโยคต่อมา นายทักษิณ บอกว่า "กลับมาไทย มีเงินเดือน 700 บาท ค่าเบี้ยคนชรา วันนี้นายศราวุธ จ้างมาหารำไพ่พิเศษวันละ 300 บาท เพราะกลัวไม่พอกินข้าว แต่ตอนนี้จวนจะ 400 แล้ว เหลือเทคนิคนิดหน่อย (พูดถึงเรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ?)
และที่ไม่พูดไม่ได้ คือเรื่องเงินหมื่น นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายทักษิณพูดว่า "เงิน 10,000 ได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 เห็นว่าเงิน 10,000 จะมาแล้วพี่น้อง (หลังนายทักษิณพูดไปเมื่อวาน วันนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ก็ได้บอกข่าวดี เตรียมแจก เงินหมื่น เฟส 2 กลุ่มสูงวัยขาดสภาพคล่อง)
แฉคลิปเสียงใหม่! หญิงปริศนาคุย “บอสพอล” อ้าง “รัฐมนตรีน้ำ” ให้คุม สคบ.
ศาลปกครองสูงสุดนัดถก เยียวยา “บิ๊กโจ๊ก” กลับตร.
ดูบอลสด อุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ ไทย พบ เลบานอน 14 พ.ย.67
ประโยคต่อมา นายทักษิณ บอกว่า อยู่เมืองนอกมา 17 ปี ที่อยู่ได้ เพราะยึดหลักคำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวาง ไม่ไปลุ่มหลง ในใจคิดอย่างเดียว“กูต้องกลับ แต่จะกลับอย่างไร ไม่รู้ ขอแค่สู้ไปเรื่อยๆ”
จากนั้นนายทักษิณ บอกว่าขอวกไปนินทาลูกสาว โดยบอกว่า “นายกฯ อิ๊งค์ เขาบอกว่า พ่อ วันนี้อิ๊งค์ห่วงชาวบ้านที่เป็นหนี้เยอะ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาอย่างไรดี” แล้วนายทักษิณก็พูดว่า "แต่วันนี้มีทางออกแล้ว เดือนธันวาคมนี้นายกฯอิ๊งค์มีข่าวดีเรื่องลดหนี้”
และประโยคเด็ดที่เป็นประเด็นทางการเมืองก็หลุดจากปากนายทักษิณ โดยพูดว่า "ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบงำลูก เพราะผมรักลูกแบบเกรงใจมาก ฉะนั้น จึงขอให้ลูกครอบงำแทน"
และเมื่อพูดเรื่องการครอบงำเสร็จนายทักษิณก็พูดเรื่องปัญหายาเสพอีกว่า "วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้าขายยามาก ไม่อยากเห็นหน้าแม่งสักคน" พูดประโยคนี้เสร็จ นายทักษิณก็บอกว่า “วันนี้นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่าจะจับมือกับอนุทิน เพื่อจัดการกับยาเสพติด”
หลังจากนั้นเมื่อพูดจบเรื่องปัญหายาเสพติด นายทักษิณก็พูดถึงนายกฯอิ๊งค์อีกว่า อิ๊งค์เป็นนายกฯที่อายุยังน้อย ซึมซับพ่อมาตลอด จะเป็นนายกที่ดี ก่อนจะบอกว่า "วันนี้เวลาที่อิ๊งค์สั่งงานอะไร ผมก็รู้สึกว่า เอ๊ะทำไม ผมของผมยาวแล้วเหรอ” นายทักษิณหันไปถามประชาชนว่า "หน้าตานายกฯเหมือนผมหรือไม่” ก่อนจะตอบเองว่า “เหมือนผมมาก เขาสวยกว่าผม แต่ผมหล่อกว่าเขา”
และช่วงท้ายของการปราศรัยเมื่อวาน นายทักษิณก็พูดถึงพรรคร่วมรัฐบาล บอกว่า ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยู่ ขอให้เบาใจได้ ว่าตนกลับมาแล้ว ตนอยู่ทั้งคนเห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ ซึ่งวันนี้ตนได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองคือ สทร. เสือกทุกเรื่อง
จากนั้น นายทักษิณ จึงปิดการปราศรัยด้วย 2 ประโยคเด็ดว่า “ขอพี่น้องอย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว อย่าลืมกาเบอร์ 2 หากไม่รู้ว่าเบอร์ 2 ชื่ออะไร ก็ขอให้นึกถึงชื่อทักษิณแล้วกัน กาทักษิณแล้วกัน” และยังบอกอีกว่า “ขอให้นายศราวุธ ทำหน้าที่ให้ดี หากเลือกตั้งสมัยหน้า จะได้เป็นรัฐมนตรี และได้ทำหน้าที่ให้ประชาชน”
เวทีที่ 2 ตลาดนัด 4 ธันวา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
และพอขึ้นเวทีที่ 2 วันนี้ช่วงเช้า 09.30 น. เรียกได้ว่า นายทักษิณพลิ้วกว่าเดิม คำพูดคำจาการปราศรัย ฟาดพรรคประชาชนคู่แข่ง และยังพาดพิงถึงคนในป่า รวมถึงบรรดานักร้องอีกด้วย
โดยนายทักษิณเริ่มปราศรัยด้วยการพูดถึงนโยบายสมัยตัวเองเป็นนายกฯ 3 นโยบาย คือ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุน หมู่บ้านและโอท็อป ก่อนจะบอกว่า "ผมใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาทจ้างชาวต่างชาติ ปรับปรุงโอท็อปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัว"ก่อนจะบอกอีกว่า "เห็นพี่น้องมากันเยอะก็รู้สึกหนุ่มขึ้น จะร้องเพลงเสกโลโซว่าอย่างไร เขาบอกคิดถึงตอนอายุ 14 แต่ผมคิดถึงตอนอายุ 55 ที่มาเป็นนายกฯ"
จากนั้นเริ่มเข้าสู่ประเด็นการเมือง โดยประโยคเด็ดที่นายทักษิณพูด คือ การโจมตีพรรคประชาชน บอกว่า เวลาพรรคประชาชนมาหาเสียง ท่านต้องบอกพรรคประชาชนว่าไม่ต้องเสนอกฎหมายใหม่หรอกยกเลิกกฎหมายเก่าที่เป็นปัญหากับประชาชนดีที่สุด "วันนี้แข่งกันออกกฏหมายใหม่ แข่งกันไปทำไม เพราะกฎหมายเก่าเฮงซวยกันเยอะแยะ ก่อนสร้างสิ่งใหม่ เอาสิ่งเฮงซวยออกไปก่อน ล้างซวย"
นอกจากนั้นนายทักษิณยังพูดถึงพรรคประชาชนต่อว่า พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชนหรือพรรคสีส้มนั้น มีความเหมือนคือเรื่องของความเท่าเทียม แต่พรรคประชาชน บอกว่าทุกคนเท่ากัน ทั้งฐานะ หรือสถานะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะเท่ากับลูก
นายทักษิณ ยังบอกอีก เห็นคู่แข่ง บางรูปเห็นรูปคู่กับหัวหน้าพรรค บางรูปก็คู่กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แสดงว่าเห็นว่านายพิธา หล่อกว่าหัวหน้าพรรคประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยใช้รูปนายกฯ อิ๊งค์ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปคู่ตน เพราะนายกฯ อิ๊งค์ หน้าเหมือนตนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นนายทักษิณเริ่มวกไปพูดถึงผลพวงของการรัฐประหาร เหมือนจะพูดวกเข้าคนในป่า บอกว่า กลไกข้าราชการเทอะทะจากการปฏิวัติ บางกฏหมายคนจะเขียนก็เอารูปตนตั้งไว้แล้วบอกว่า กูจะจัดการมันอย่างไรดี อิจฉาอะไรก็ไม่รู้ ทำให้การช่วยเหลือบ้านเมืองนั้นทำได้ยาก หาว่าครอบงำ นักร้องก็เยอะ ไม่รู้มันร้องอะไรนักหนา หมาก็อยู่ส่วนหมา คนก็อยู่ส่วนคน
ก่อนจะปิดท้ายประเด็นการเมือง บอกว่า "การเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตาม แต่ระหว่างที่ผมออกไปเขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ"
อย่างไรก็ตามนายทักษิณปิดท้ายเวทีปราศรัย นายทักษิณก็อ้อนคนอุดรธานีบอกว่า “ถ้าไม่ได้ชนะถล่มทลาย ผมอายเขานะ คนอุดรอย่าให้ผมอายนะ ถ้าไม่อาย ผมจะได้มาเยี่ยมบ่อยๆ ถ้าไม่งั้นผมต้องใส่หน้ากากอนามัยมาเยี่ยม”
เวทีที่ 3 สนามทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ขณะที่การปราศรัยเวทีสุดท้ายที่สนามทุ่งศรีเมือง ในการช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยมีประชาชนมารอฟังการปราศรัยกว่า 20,000 คน ซึ่งนายทักษิณเริ่มต้นทักทายประชาชน พร้อมระบุว่าคนไทยทุกคนเมื่อมีงานทำ ก็ต้องมีบ้านอยู่ จะสร้างบ้านให้คนไทยทุกคน ปรับเงินเดือนจาก 15,000 บาท เป็น 25,000 บาท ในโอกาสถัดไป บ้านไม่ต้องดาวน์ ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้
และนายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้นักร้องเยอะพูดอะไรต้องระวัง ประเทศไทยแปลกอย่าง คนไม่ทำมาหากิน แต่มีรายได้มากกว่าคนที่ทำมาหากิน เพราะนักร้องมีหลายประเภท ทั้งรับจ้างนายมาและเป็นอิสระหารายได้เอง เนื่องจากมีกฎหมายที่อนุญาตให้ใครทำอะไร ฉะนั้น ตนต้องระมัดระวังจนทำงานอะไรไม่ได้ ซึ่งทุกข์ของประชาชนสำคัญกว่า
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ถ้าไม่ปฏิวัติตนวันนั้น ก็หายจนไปนานแล้ว อุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2 รอบ นึกว่าจะแก้ปัญหาได้กลับสร้างปัญหาขึ้นมาอีก วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาความสุข ความมั่งคั่งของคนไทยกลับคืนมา ตอนนี้รถไฟความเร็วสูงจากจีน มาถึงลาวแล้ว เดี๋ยวจะต่อเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งต้องผ่านอุดรธานี ดังนั้นอุดรธานีต้องเตรียมรองรับนักท่องเที่ยว ปรับปรุงเรื่องการท่องเที่ยวให้เจริญและสินค้าจากอุดรธานีก็จะไปถึงฉงชิ่ง อุดรธานีก็จะเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่ง
“เชื่อว่าในปีหน้ารัฐบาลไทย-จีนจะครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี คงจะมีข่าวดีให้คนไทยว่ารถไฟความเร็วสูงจากอุดรไปจีนจะเกิดขึ้นแล้ว เชื่อว่าคนอุดรจะได้ประโยชน์ เพราะอาจมีสถานีใหญ่อยู่ที่อุดร อาจจะผ่านพื้นที่จัดงานพืชสวนโลก ซึ่งนายกได้สั่งให้กระทรวงการเกษตรเร่งดำเนินการ เพื่อให้พืชสวนโลกเป็นที่พักผ่อนของคนอุดร” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตใต้หวัน จีน อเมริกา ก็อยากมาตั้งโรงงานในไทย รวมถึงตั้งศูนย์ข้อมูล ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือการฝึกเด็กรุ่นใหม่ให้เก่งขึ้น เพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้ รวมถึงเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ซึ่งในอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางเอไอ
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ทำอะไรรัฐบาลทำอะไรก็เหนื่อยหน่อยเพราะนักร้องเยอะหนวกหูหน่อย นักลงทุนต่างประเทศเดินแถวเข้ามาพบตรงเยอะมาก พอมีข่าวเขาก็กังวล ตนจึงบอกอย่าใส่ใจเลย เพราะประเทศไทยมีสถาบัน สิ่งที่เราทำคือคำนึงถึงหลักกฏหมายและจริยธรรมเต็มที่ ตนกล้าบอกในฐานะสันทัดนักการเมืองมานาน การันตีว่ารัฐบาลนี้อยู่ครบ ฉะนั้น ใครจะลงทุนมั่นใจได้ และพี่น้องคนอุดรธานีก็จะเลือกต่อให้อีกหนึ่งเทอม เราเป็นหัวใจเดียวกัน ฉะนั้น กลับมาอยู่ด้วยกัน สนับสนุนกัน
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนอยู่เมืองนอกมา 17 ปีเกือบตายเพราะโดนพวกมันแกล้งมาตลอด ครั้งแรกก็โมโห ครั้งที่สองก็รู้สึกอะไรวะ วันนี้ที่เล่าให้ฟัง เพราะกฎหมายที่ออกมาเฮงซวย เพราะมันเขียนกฏหมายไป เห็นหน้าผมไป จากกันยังไงดีวะ สุดท้ายจะกันยังไงก็ต้องกันที่ประชาชน ประชาชนเขายังคิดถึงตนอยู่ เลือกตั้งทีไรก็ชนะ คราวที่แล้วมีอุบัติเหตุนิดหน่อย รับรองคราวหน้าไม่มีแพ้ ประเมินแบบผู้สันทัดกรณีเลือกตั้งคราวหน้าเพื่อไทยไม่มีต่ำกว่า 200 เสียง ยังไม่เลือกตั้งแต่ดูจากความตั้งใจของนายกฯ อิ๊งค์และแผนงาน รับรองเลยว่าสบายมาก ไม่ต้องอาศัยพระเอกหนังเกาหลีมาช่วย ก่อนถามว่า คู่แข่งคือเบอร์หนึ่งใช่หรือไม่
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล อุตส่าห์บินจากอเมริกามา เพราะกลัวแพ้ อีกทั้งเขาต้องพิมพ์รูปคู่ทั้งกับพิธาและเท้ง ขณะที่ศราวุธลงรูปเดียวคู่กับนายกอิ๊งค์ ไม่ต้องใช้รูปคู่กับผม มันได้เปรียบเห็นหรือไม่ เพราะเขาต้องพิมพ์สองต่อ เราประหยัดกว่า” นายทักษิณ กล่าว