ความคืบหน้ากรณีกระแสข่าว “หวานใจของบิ๊กการเมือง” ที่มีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ทรุกที่ดิน ส.ป.ก. ล่าสุด พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์กับพีพีทีวี ระบุว่าคดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากชุดตรวจสอบ ของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนั้นมีการทำงานร่วมกันกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งสำนวนให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เรียบร้อยแล้ว
เตือน 14 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 3-5 ธ.ค. นี้
“รัสเซีย-ยูเครน” เพิ่มงบกลาโหมสูงเป็นประวัติการณ์
“สามารถ” โดนอีกคดี ตร.จ่อแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ พบเส้นเงินรีดทรัพย์ผู้ประกอบการ 5 แสน
แต่ต่อมาไปพบว่า มีเจ้าที่ภาครัฐ ที่เข้าไปเอื้อประโยชน์และเข้าข่ายและการทุจริตด้วย ผู้ที่ดูแลสำนวนจึงนำมาแจ้งความเอาผิดที่ตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เข้าไปเกี่ยวข้อง ในลักษณะที่น่าจะเข้าข่ายเรื่องการทุจริตต่อหน้าที่ จากการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวรีสอร์ท
ส่วนประเด็นของ “หวานใจบิ๊กการเมือง” ที่ไปพบเส้นเงิน 10 ล้านบาทนั้น ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดในการออกหมายเรียก หรือ ขอหมายจับ เพราะต้องดูคดีที่เป็นสารตั้งต้นก่อน แต่เชื่อว่าสามารถเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้ลงพื้นที่ไปเก็บพยานหลักฐานเอกสาร ที่ตัวรีสอร์ทมาไว้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าเป็นคดีใหญ่ และหลายคนเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของการเอาคืนกันทางการเมือง หรือไปเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นอดีตผู้มีอำนาจทางการเมือง พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่าเรื่องนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำตามกระบวนการอยู่แล้ว ซึ่งหากมีสารตั้งต้นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็ต้องตรวจสอบไปถึงบุคคลที่มีเส้นทางการเงินไปถึง ซึ่งถึงขนาดนี้หลังออกมา เปิดเผยเรื่องของการสืบสวนคดีนี้ ก็ยืนยันว่า ไม่มีใครยกหูหรือติดต่อมาหาเพื่อเคลียร์คดี ซึ่งทำไม่ได้อย่างแน่นอน